นายวีระพงค์ ลือสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พีรพัฒน์เทคโนโลยี (PRAPAT) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปี 64 ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 900 ล้านบาท แม้ว่าในต้นปีนี้จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกสอง แต่ในครั้งนี้การที่ภาครัฐไม่ได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ ทำให้สถานที่ต่าง ๆ ที่มีการเปิดให้บริการทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และโรงพยาบาล ยังคงต้องทำความสะอาด และฆ่าเชื้อตามปกติ
นอกจากนี้ การที่รัฐบาลมีแผนจะนำวัคซีนโควิด-19 เข้ามาฉีดให้แก่ประชาชนโดยทั่วไปตลอดทั้งปีนี้ ก็เชื่อว่าจะช่วยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวค่อย ๆ ฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมเปิดศูนย์บริการเพื่อจัดแสดงสินค้า (โชว์รูม) ในข่วงปลายเดือน ม.ค. เพื่อให้ลูกค้าเห็นสินค้าจริงและตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยในปีนี้บริษัทได้เน้นการเข้าจำหน่ายสินค้าในรูปแบบโครงการขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้น ทั้งในกลุ่มโรงพยาบาล โรงแรม ร้านอาหาร และโรงงานอุตสาหกรรม ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ที่จำหน่ายพร้อมน้ำยาซักผ้า ซึ่งปีนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะมีการจำหน่ายอย่างน้อย 30 โครงการ จากช่วงต้นปีที่ผ่านมาจำหน่ายไปแล้ว 10 โครงการ มูลค่าราว 2 ล้านบาทต่อโครงการ
สำหรับผลิตภัณฑ์ระบบครัวปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาอยู่ 4-5 โครงการ จากช่วงต้นปีจำหน่ายไปแล้ว 2 โครงการ มูลค่า 6-8 แสนบาทต่อโครงการ และผลิตภัณฑ์ปั้มน้ำทำความร้อนที่อยู่ระหว่างการเจรจา 2-3 โครงการ มูลค่าโครงการราว 1-5 ล้านบาทต่อโครงการ
ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมที่จะแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย 2 แห่ง ในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญหรือมีศักยภาพในการจำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์นั้น ๆ จากปัจจุบันบริษัทมีตัวแทนจำหน่ายครอบคลุมครบ 77 จังหวัดแล้วทั้งในหัวเมืองหลักและหัวเมืองรอง ซึ่งทั้ง 2 แห่งที่เพิ่มตัวแทนจำหน่ายใหม่ครั้งนี้มองว่ามีโอกาสในการจำหน่ายสินค้าเพิ่มเติมตามจำนวนประชากรที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
"ในช่วงต้นปีนี้เราได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ไม่เหมือนกับปี 63 เพราะครั้งนี้ไม่ได้ปิดเมืองทั้งหมด ทุกๆโรงแรม โรงพยาบาล และสถานที่ต่างๆที่เปิดให้บริการจำเป็นต้องมีการทำความสะอาดเพื่อที่จะลดและป้องกันสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะเดียวกันเรายังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และการจำหน่ายสินค้าด้วยกลยุทธ์ PPG SYNERGY/One team One platform One package"นายวีระพงค์ กล่าว
นายวีระพงค์ กล่าวถึงแผนการลงทุนว่า บริษัทเตรียมก่อสร้างคลังสินค้าขนาด 5,800 ตารางเมตร (ตร.ม.) และสร้าง Land Dock หรือพื้นที่ขนถ่ายสินค้าตามแผนงานที่กำหนดไวั โดยใช้งบลงทุนประมาณ 72 ล้านบาท ตั้งอยู่ในพื้นที่โรงงาน อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี เพื่อเป็นคลังขนถ่ายสินค้า เริ่มก่อสร้างในไตรมาส 3/64 คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้าง 12-18 เดือน
ตลอดจนลงทุนในระบบควบคุมการผลิต ระบบ SCADA เพื่อควบคุมและวัดปริมาตรน้ำยาแบบอัตโนมัติรวม โดยลงทุนเชื่อมต่อทั้ง 2 ระบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานข้อมูลจากสายงานผลิตจะถูกส่งตรงเข้าสู่ระบบบัญชีได้อย่างรวดเร็ว ใช้งบลงทุน 30 ล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะดำเนินการได้ในช่วงไตรมาส 1/64 และใช้ระยะเวลาในการดำเนินงาน 12-18 เดือน
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมที่จะยื่นขอให้มีการพิจารณาเพื่อจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการงวดปี 63 เนื่องจากบริษัทมีกำไรสะสมอยู่ราว 88 ล้านบาท และผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/63 ก็เชื่อว่าจะมีกำไรสุทธิที่ปรับตัวสูงขึ้นด้วย โดยบริษัทมีนโยบายในการจ่ายเงินปันผล 40% ของกำไรสุทธิ