นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น(SAMART)คาดว่า ธุรกิจของกลุ่ม SAMART ในประเทศกัมพูชาจะได้ข้อสรุปการระดมทุน รวมทั้งการหาพันธมิตรใหม่ภายในปีนี้
สำหรับธุรกิจที่ SAMART เข้าไปลงทุนในกัมพูชา ได้แก่ บริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด(CATS)ถือหุ้น 90% ทำธุรกิจการจัดการควบคุมการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชา, บริษัท แคมโบเดีย สามารถ จำกัด ถือหุ้น 34% ประกอบ ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมในประเทศกัมพูชา
"เชื่อว่าปีนี้ SAMART จะมีอะไรใหม่ๆออกมา โดยเฉพาะที่เขมร น่าจะมีความชัดเจนเรื่องการพันธมิตร หรือ ระดมทุน ซึ่งหากระดมทุนก็จะผ่านตลาดหลักทรัพย์ในสิงคโปร์หรือฮ่องกง แต่ไม่ระดมทุนในตลาดหุ้นไทย เพราะยังติดกฎหมาย ไม่สามารถนำธุรกิจต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนได้" นายวัฒน์ชัย กล่าว
ในปี 50 คาดว่า บริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิคฯ จะทำรายได้เติบโตมากกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 18 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากในกัมพูชามีธุรกิจท่องเที่ยวเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจีดีพีของประเทศกัมพูชาก็ยังเติบโตในระดับสูง
นอกจากนี้ นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า บริษัทยังเข้าร่วมประมูลงานในกัมพูชาเป็นงานระบบเช็คอินสนามบินในกัมพูชา มูลค่างานราว 100 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างรอสรุปผล
ส่วนธุรกิจจำหน่ายจานดาวเทียมในประเทศไทยนั้น นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า ในปี 51 คาดว่าจะมียอดขาย 3-4 แสนชุด เพิ่มขึ้นจากปี 50 ที่คาดว่าจะมี 1 แสนชุด เนื่องจากบริษัทมีการพัฒนาจานดาวเทียมให้มีราคาถูกลง โดยราคาขายปัจจุบันอยู่ที่ 6 พันบาทต่อชุดและปีหน้าจะปรับลดราคาลงอีกเหลือประมาณ 2-3 พันบาทต่อชุด
ขณะที่กรณีข้อพิพาทเรื่องหนี้สินระบบบิลลิ่งของไทยโมบายระหว่างทีโอทีกับ บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย(SIM)มูลค่า 1.1 พันล้านบาทนั้น นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการรอให้ทีโอทีเรียกไปเจรจา ซึ่งคาดจะได้ข้อสรุปในปีนี้
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/เสาวลักษณ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--