นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง (FTE) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 64 จะเติบโตราว 10% โดยบริษัทได้ตุนงานในมือไว้ 460 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถทยอยรับรู้รายได้รายได้ในปีนี้ราว 80% ของมูลค่างานทั้งหมด ในขณะเดียวกันบริษัทยังคงอยู่ระหว่างการประมูลงานใหม่มูลค่าราว 100 ล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลการประมูลงานในช่วงครึ่งปีแรกนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ในการจำหน่ายสินค้าระบบดับเพลิงไปยังกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในส่วนของอุตสาหกรรมอาหารที่ยังคงมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทดแทนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มีการชะลอตัวหลังจากได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มระบบไฟฟ้าและระบบปรับอากาศสำหรับ Data center โดยมองว่าอนาคตในกลุ่มดังกล่าวจะมีการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันยังเน้นการเพิ่มผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของโครงสร้างพื้นฐาน เนื่องจากภาครัฐบาลยังคงมีการขยายโครงการโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง
สำหรับสัดส่วนรายได้ในปีนี้จะมาจากอสังหาริมทรัพย์ 25% โครงสร้างพื้นฐาน 25% โรงงานอุตสาหกรรม 35% และส่วนสุดท้ายคือกลุ่ม Data center
"ปี 63 ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเรามีผลกระทบหลักจากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มีการชะลอตัวไป แต่ในปีนี้เราก็ได้มีการปรับตัวโดยการขยายกลุ่มลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆเพิ่มเติม เพิ่มผลิตภัณฑ์มากขึ้นเพื่อที่จะเป็นการกระจายความเสี่ยงที่จะพึ่งพากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากเกินไป ซึ่งในปีนี้เราคาดว่าจะได้รับผลกระทบไม่มากแล้ว และน่าจะมีการเติบโตได้"นายทักษิณ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
ขณะที่การก่อสร้างคลังสินค้าบนพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ ตั้งอยู่ที่ถนนลาดกระบัง ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จแล้ว และในปีนี้เชื่อว่าจะช่วยให้บริษัทสามารถบริหารจัดการสินค้าได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งช่วยบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้น และช่วยลดต้นทุนค่าเช่าเพิ่มเติมด้วย และในพื้นที่เดียวกันบริษัทฯ ได้สร้างโรงงานประกอบเครื่องสูบน้ำดับเพลิง (Fire pumps) เพื่อผลิตสินค้าที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน สามารถส่งมอบสินค้าได้ตามกำหนดหรือเร็วกว่ากำหนด และต่อยอดไลน์สินค้าในอนาคต โดยคาดว่าเพิ่มยอดขายปีละ 100- 200 ล้านบาท