นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เปิดเผยว่า กลุ่มทรู ได้ลิขสิทธิ์รายการแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่ 3 ทัวร์นาเมนต์ระดับโลก รายการแรก "โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020" วันที่ 12-17 ม.ค. ต่อด้วยรายการ "โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020" วันที่ 19-24 ม.ค. และปิดท้ายด้วยรายการ "เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนัลส์ 2020" วันที่ 27-31 ม.ค. โดยกลุ่มทรู บรรลุข้อตกลงในการได้ลิขสิทธิ์จากสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยและสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) ในการถ่ายทอดสดทุกแพลตฟอร์ม หลังจากเกิดปัญหาการระบาดของโควิด-19
การกลับมาถ่ายทอดสดกีฬาในครั้งนี้ ทางสมาคมฯให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ มีมาตรการเข้มข้นทุกขั้นตอน เช่น การให้นักกีฬามาถึงก่อนการแข่งขัน 7 วัน ซึ่งนักกีฬาแต่ละประเทศ เดินทางด้วยรถบัสเพียง 1 คัน นักกีฬาพักห้องละ 1 คน และรับประทานอาหารในห้องเพียงคนเดียว ถือเป็นแนวทางหรือโมเดลใหม่ในการจัดการแข่งขันกีฬาในยุคโควิดระบาด
นอกจากนี้ กลุ่มทรูยังได้สนับสนุนซิมเน็ตพร้อมใช้ จาก ทรูมูฟ เอช จำนวน 500 ซิม พร้อมแพ็กเกจเน็ตความเร็ว 10 Mbps. ไม่อั้น โทรในเครือข่ายฟรี นาน 30 วัน รวมมูลค่า 170,000 บาท ให้แก่สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์เพื่อแจกจ่ายให้กับนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และทีมงานถ่ายทอดสด
"กลุ่มทรู ได้นำการถ่ายทอดกีฬาชั้นนำระดับโลก มาให้ลูกค้าได้รับชมกันต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยในปี 2564 เราคว้าลิขสิทธิ์แบดมินตันรายการยิ่งใหญ่ระดับโลก มาให้ชมถึง 3 ทัวร์นาเมนต์แบบเอ็กคลูซีฟในทุกช่องทางของทรู ซึ่งลูกค้าทรู และสมาชิกทรูวิชั่นส์ จะได้รับชมกันอย่างจุใจ เต็มอิ่ม ครบถ้วนที่สุด"นายองอาจ กล่าว
สำหรับช่องทางการถ่ายทอดสด มีดังนี้ ทางเคเบิ้ลทีวีทรูวิชั่นส์ รับชมทุกคู่ที่ทำการถ่ายทอดสด ทางฟรีทีวีโดยทรูโฟร์ยูช่อง 24 ถ่ายทอดสดอย่างน้อย 3 คู่ต่อวัน (โดยเฉพาะคู่ที่นักกีฬาชาวไทยร่วมลงแข่ง) ทรูไอดีแอป และกล่องทรูไอดีทีวี พร้อมติดตามความเคลื่อนไหว ข่าวสาร อีกทั้งไฮไลท์ประจำวันได้ทาง TNN 16 และสามารถติดตามตารางการแข่งขัน ไฮไลท์แบบเรียลไทม์ ได้ทางเฟซบุ๊กและเว็บไซต์ TrueVisions