ดัชนีหุ้นไทยต้นภาคบ่ายไหลลงต่อไปเป็นกว่า 20 จุด รับแรงขายหุ้นใหญ่ นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ทั้ง PTT และ GPSC รวมถึงมีแรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์ และหุ้น DELTA ออกมาต่อเนื่องจากช่วงเช้าถ่วงภาพรวมการลงทุน ขณะที่นักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศหากไม่สามารถควบคุมได้เร็วก็อาจทำให้แบงก์ชาติปรับลดเป้า GDP ลงอีกในปีนี้
เมื่อเวลา 14.29 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,515.96 จุด ลดลง 20.02 จุด (-1.30%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.46 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,515.83 จุด ลดลง 20.15 จุด (-1.31%)
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงกว่า 20 จุด คล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่วันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ แต่จะอิงทางลบมากกว่า จากแรงขายทำกำไรหลังตลาดตอบรับเรื่องนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ แถลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯไปแล้ว อีกทั้งมีการขายล็อกกำไรก่อนที่ผลประกอบการกลุ่มแบงก์จะทยอยประกาศออกมา
นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังออกมาระบุว่ามีโอกาสที่จะปรับลดประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปีนี้ลงอีกจากผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยหากรัฐฯคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ภายใน 2 เดือนจะมีผลต่อเศรษฐกิจไม่มากราว 1% ซึ่งตลาดก็ยังไม่แน่ใจว่าการแพร่ระบาดโควิดจะจบได้เร็วหรือไม่
อีกทั้งตลาดฯยังเผชิญแรงกดดันจากกองทุนที่มีการปรับพอร์ตพื่อเตรียมเม็ดเงินไว้ซื้อหุ้นที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ของบมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ด้วย โดยวันนี้เห็นได้ชัดมีการปรับพอร์ตของหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าออกมา และแรงขายของหุ้น DELTA ก็กดดันดัชนีฯเช่นกัน
พร้อมให้แนวรับ 1,510 จุด ส่วนแนวต้าน 1,525 จุด