(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: นลท.คาดเฟดลดดอกเบี้ย ดันดาวโจนส์ปิดบวก 57.88 จุด

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ค่อนข้างซบเซา ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากสหรัฐเผชิญแรงกดดันรอบด้าน ซึ่งรวมถึงวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อและตลาดซับไพรม์ รวมทั้งภาวะขาดสภาพคล่องในระบบการธนาคาร
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวกขึ้น 57.88 จุด หรือ 0.44% ปิดที่   13,363.35 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 6.26 จุด หรือ 0.43% ปิดที่ 1,478.55 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 8.37 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 2,614.32 จุด
          ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.28 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 5 ต่อ 3 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 1.85 พันล้านหุ้น
          นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.นี้ หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐอ่อนแอลง โดยล่าสุดสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคบริการทรงตัวที่  55.8 จุด ในเดือนส.ค.เท่ากับในเดือนก.ค. 
          ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงเกินคาด 19,000 ราย แตะระดับ 318,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 1 ก.ย. จากระดับ 337,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น โดยก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะอยู่ที่ 330,000 ราย
          เมื่อวานนี้ บรรษัทประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) ประเมินว่า จะมีผู้กู้ยืมกว่า 1.5 ล้านรายที่ไม่สามารถชำระหนี้สินที่เกิดจากกู้จำนองได้ หลังจากที่มีการปรับระดับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ใหม่ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
          อย่างไรก็ตามนายโรเบิร์ต สตีล รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังฝ่ายการคลังในประเทศ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เจ้าของบ้านต้องสูญเสียบ้านของตน ทั้งในส่วนของการร่วมมือกับผู้ปล่อยกู้และคณะที่ปรึกษา เพื่อปรับปรุงโครงสร้างการปล่อยกู้จำนองเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
          หุ้นวอล-มาร์ทพุ่งขึ้น 31 เซนต์ ปิดที่ 42.76 ดอลลาร์ หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายเพิ่มขึ้น 3.1% ขณะที่หุ้นทาร์เก็ตบวกขึ้น 2.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายประจำเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 6.1%
          ส่วนหุ้นแซคส์ อิงค์ บวกขึ้น 3.2% หุ้นแปซิฟิก ซัน เพิ่มขึ้น 5.2% และหุ้นชิลเดรนท์ เพลส ร่วงลง 29 เซนต์ ปิดที่ 27.68 ดอลลาร์
          หุ้นคันทรีไวด์ร่วงลง 2.1% หลังจากบริษัทคันทรีไวด์ซึ่งผู้ปล่อยกู้จำนองรายใหญ่ในสหรัฐที่กำลังเผชิญกับวิกฤติอย่างหนัก ได้ประกาศปลดพนักงานเพิ่มอีก 900 ตำแหน่งทั่วประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสภาพตลาดปล่อยกู้จำนองที่ตกอยู่ในภาวะย่ำแย่และอาจส่งผลกระทบถึงภาคเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐด้วย