ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,508.09 จุด ลดลง 11.04 จุด (-0.73%) มูลค่าการซื้อขายราว 38,619.60 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,515.51 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,503.58 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงคล้ายกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวในแดนลบเฉลี่ย -0.8% เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่เช้านี้ก็ติดลบ หลังราคาน้ำมันมีการถอยลงมา และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯก็ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังจากวัคซีนต้านไวรัสโควิดเห็นผลข้างเคียง เป็นแรงกดดันการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก
สำหรับตลาดบ้านเรามีจังหวะในการลดน้ำหนักลงทุนจากนักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศก็ลดน้ำหนักลงทุนตาม Global plays ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศก็ปรับลดพอร์ตเพื่อเตรียมไปรอซื้อหุ้น IPO ขนาดใหญ่ ทำให้ตลาดในระยะสั้นปรับตัวลง เนื่องจากสถาบันได้สิทธิซื้อหุ้น OR ถึง 1,700-1,800 ล้านหุ้น ต้องใช้เงินลงทุนรวมกว่า 2-3 หมื่นล้านบาท พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน เริ่มจากกลุ่มแบงก์
"การปรับฐานของตลาดฯยังไม่คิดว่าจะแย่ ซึ่งรอบนี้ทุกจังหวะในการขึ้นจะมีการย่อพักฐานด้วย...ช่วงสั้นก็ปรับฐานให้รอการตั้งรับ"
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังปรับฐาน ซึ่งก็ให้ชะลอการลงทุนเล็กน้อย พร้อมให้แนวรับ 1,500-1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,270.89 ล้านบาท ปิดที่ 42.50 บาท ลดลง 0.75 บาท TASCO มูลค่าการซื้อขาย 1,856.40 ล้านบาท ปิดที่ 21.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,316.80 ล้านบาท ปิดที่ 115.50 บาท ลดลง 2.50 บาท GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,290.34 ล้านบาท ปิดที่ 82.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,148.68 ล้านบาท ปิดที่ 29.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท