หุ้น BCPG ราคาขยับขึ้น 3.85% มาอยู่ที่ 16.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 130.07 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.07 น. โดยเปิดตลาดที่ 16.20 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 16.30 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 16.10 บาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.บีซีพีจี (BCPG) กำไรปกติในไตรมาส 4/63 อยู่ที่ 503 ล้านบาท (-22%QoQ, +17%YoY) ลดลง QoQ จากปริมาณน้ำฝนที่ลดลงตามฤดูกาลแต่เติบโต YoY จากการรับรู้โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ Nam San 3B (45MW) ที่เข้าไปลงทุนในไตรมาส 1/63 และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ (20MW) ที่เข้าไปลงทุนเมื่อไตรมาส 3/63
พร้อมคาดกำไรปกติในไตรมาส 1/64 อยู่ในระดับ 400-500 ล้านบาท ชะลอลง QoQ แต่เติบโต YoY ได้แรงหนุนจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ Nam San 3B (45MW) และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทย (20MW)
ทั้งนี้ ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 64 ที่ 2,224 ล้านบาท เติบโต 28%YoY ได้แรงหนุนจากรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ โครงการ Nam San 3B ขนาด 45MW เต็มปี และเริ่มรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น รวมขนาด 65MW ซึ่งจะเริ่มทยอย COD ตั้งแต่ไตรมาส 3/64 รวมทั้งรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ รวม 4 โครงการ รวมขนาด 20MW เต็มปี
โดยราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 64 ขึ้นเป็น 19.0 บาท/หุ้น อิงจากกรณีที่ผู้ลงทุนใช้สิทธิ์ RO + PP + BCPG-W1 + BCPG-W3 รวมจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นมาทั้งหมด 909 ล้านหุ้น เป็น 2,908 ล้านหุ้นในปี 64 และรวมประมาณการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศลาว โครงการ SWAN ขนาด 600MW ที่คาดว่าจะได้ PPA ภายในไตรมาส 1/64 โดย BCPG มีสัดส่วนการลงทุนอยู่ที่ 45% ด้วยงบการลงทุนเฉลี่ย 45 ล้านบาท/MW ได้รับค่าไฟในลักษณะ FiT ที่เฉลี่ย 2.0-2.3 บาท/KWh บนสมมติฐาน Capacity Factor เฉลี่ยที่ 33% คาดจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 66 ช่วยชดเชยส่วนกำไรที่หายไปภายหลังจากบางโครงการในไทยหมด Adder
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาอีกราว 200-300MW ทั้งโครงการใหม่ ๆ และการ M&A และมีโอกาสขยายโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการ SWAN Phase 2 อีกขนาดไม่ต่ำกว่า 500-600MW เป็น Upside ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ