นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในลักษณะฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังจากดัชนีดาวโจนส์ได้ปรับตัวขึ้นสะท้อนการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯของนายโจ ไบเดน มองถึงความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ หากออกมาก็จะช่วยหนุนการบริโภคน้ำมันด้วย ส่งผลให้ราคาน้ำมันล่าสุดปรับขึ้นมาจะช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน
ส่วนตลาดบ้านเรา คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการ"เราชนะ"เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ ซึ่งก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้างในระยะสั้น นอกจากนี้ เริ่มเห็นการกลับมาซื้อของกองทุน โดยวานนี้ซื้อสุทธิ 1,400 ล้านบาท แสดงให้เห็นการปรับพอร์ตเพื่อเตรียมเงินไปซื้อหุ้น บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ใกล้จบแล้ว ดังนั้น แรงขายน่าจะเริ่มคลี่คลาย อีกทั้งเงินดอลลาร์สหรัฐก็กลับมาอ่อนค่า โดยเงินบาทเช้านี้แข็งค่าหลุด 30 บาท/ดอลลาร์แล้ว
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศ จะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศลดลง ซึ่งหากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้จะช่วยหนุนหุ้น Domestic plays กลับมา แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในจีนที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,510-1,517 จุด ส่วนแนวต้าน 1,533-1,540 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (19 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,930.52 จุด เพิ่มขึ้น 116.26 จุด (+ 0.38%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,798.91 จุด เพิ่มขึ้น 30.66 จุด (+0.81%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,197.18 จุด เพิ่มขึ้น 198.68 จุด (+1.53%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.26 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 165.28 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 152.13 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 ม.ค.) 1,522.59 จุด เพิ่มขึ้น 12.46 จุด (+0.82%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 620.03 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ม.ค.64
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (19 ม.ค.) ปิดที่ 52.98 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 1.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 ม.ค.) อยู่ที่ 1.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 29.97/99 แข็งค่าจากวานนี้ นลท.จับตาพิธีสาบานตนปธน.สหรัฐคนใหม่
- คลังขายหุ้น "บางจาก" 5.22% ให้กองทุนวายุภักษ์ ระดมเงินซื้อหุ้นไอพีโอ "โออาร์" เต็มตามสิทธิ 153 ล้านหุ้น คาดใช้เงินกว่า 2.7 พันล้านบาท ผู้จัดการกองทุนเชื่อมั่นฝีมือผู้บริหารปั้นธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกเติบโต สู้เทคโนโลยีดิสรัปชั่น เผยเตรียมขยายธุรกิจในอาเซียน ปรับรูปแบบปั๊มน้ำมันรองรับอีวีและกระจายสาขาร้านสะดวกซื้อ-ร้านกาแฟ บลจ.บัวหลวง มองเป้าราคา 3 ปีข้างหน้าแตะ 25-27 บาท
- ก.พลังงานสั่งปรับโครงสร้างราคาเอทานอลใหม่รองรับการผลักดันน้ำมัน E20 เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐาน ขณะที่ สนพ.ประเมินการใช้พลังงานขั้นต้นปี'64 โต 0.2-1.9%
- ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ประเมินโควิดระลอกใหม่ทุบท่องเที่ยวในประเทศสูญกว่า 1.1 แสนล้านบาท
- "อาคม" กุมขมับสั่งเอ็กซิมแบงก์เร่งพิจารณาสินเชื่ออุ้มผู้ประกอบการสายการบิน หลังลดสเปกเหลือกู้เพื่อจ่ายเงินเดือนพนักงาน แจงต้องพิจารณาอย่างรัดกุม ยอมรับมีหลายธุรกิจอ้อนรัฐบาลช่วยหลังเจอพิษโควิด-19 เล่นงาน ด้านแอร์เอเชียเคาะให้พนักงานหยุดงาน 4 เดือน ไม่รับค่าจ้าง
- กรมเจรจาฯ เผยสถิติส่งออกผลิตภัณฑ์ยางแปรรูปไทย 11 เดือนของปี 2563 ขยายตัว 7% ขึ้นอันดับ 3 ของโลก รองจากจีนและเยอรมนี โดยเฉพาะถุงมือยางโต 83% มูลค่า 2,018 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการแพร่ระบาดโควิด-19
- ธนาคารพาณิชย์-ธนาคารรัฐ เร่งออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 กรุงศรีออกมาตรการ "พัก-ยืด-ลด" อุ้มลูกค้า ออมสินอึ้ง! ลูกหนี้แห่ขอสินเชื่อฉุกเฉินล้นกว่า 1.1 แสนราย ธ.ก.ส.ต่อเวลาพักหนี้ 6-12 เดือน ธพว.ช่วยเอสเอ็มอี เพิ่มสินเชื่อใหม่ "จ่ายดี มีเติม"
*หุ้นเด่นวันนี้
- TOP (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 64 บาท คาดกำไรสุทธิ Q4/63 เพิ่มขึ้นเป็น 6.9 พันล้านบาท +859%qoq และ +246%yoy กำไรการดำเนินงานเป็นบวก และมีกำไรจาก Stock gain, FX Gain รวมถึงกำไรจากการขายเงินลงทุนในหุ้น GPSC
- AEONTS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 288 บาท คาดโมเมนตัมกำไร Q4/63 (ม.ค.-มี.ค. 64) ยังดีต่อเนื่องโดยได้แรงหนุนจากการกลับรายการสำรอง ECL หลังจากตั้งเผื่อไปค่อนข้างมากในปีก่อน ขณะที่ Coverage Ratio ยังอยู่ในระดับสูงกว่า 200%
- SVI (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 5.10 บาท ความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นตามภาคอุตสาหกรรมสื่อสาร ยานยนต์ และอุตสาหกรรมการผลิต (ระบบควบคุมเครื่องจักรโรงงาน) ที่ฟื้นตัวตามภาคการผลิต นอกจากนี้ สินค้าที่เติบโตดีและน่าจับตามองคือป้ายแสดงราคาอิเล็คทรอนิกส์ โดยบริษัทกำลังขยายตลาดในโซนยุโรปและเอเชียในอุตสาหกรรมค้าปลีก ด้าน Bloomberg Consensus Survey กำไรสุทธิเฉลี่ยใน ปี 2563-2564 ที่ 697 ลบ. และ 596 ลบ. เติบโต +87%YoY, -14%YoY ตามลำดับ