หุ้น VL ราคาพุ่งขึ้น 9.60% มาอยู่ที่ 1.37 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท มูลค่าซื้อขาย 130.98 ล้านบาท เมื่อเวลา 14.50 น. โดยเปิดตลาดที่ 1.47 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.48 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.36 บาท
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ.วี.แอล.เอ็นเตอร์ไพรส์ (VL) หลังมองเคยเป็นหุ้นเรือ Tanker อันดับ 2 ของประเทศ ที่ถูกมองข้าม เพราะขนาดกองเรือที่เล็ก ไม่ได้มีการขยายสุทธิ ทิศทางกำไรปี 62-63 ไม่เติบโต แต่ทว่าตั้งแต่ปี 64-66 กำลังจะเริ่มเห็นการเติบโตของกำไร ราว 26.5%ต่อปี จากกำลังการให้บริการจะเพิ่ม 45% ใน 3 ปี หนุนมาด้วยการขยายตัวของอัตรากำไรขั้นต้น จากการปรับกองเรืออย่างชาญฉลาดก่อนหน้า (ขายเรือเก่าเล็ก-ซื้อเรือใหม่ใหญ่)
โดยราคาหุ้นปัจจุบัน มีส่วนลด P/BV ถึง 37% จากกลุ่มเรือในตลาด โดยซื้อขายเพียง P/BV 1.1 เท่า ทั้ง ๆ ที่มีกำไรสม่ำเสมอ, อยู่ใน segment เรือที่มั่นคง, มี Barrier to Entry สูงมาก และกำไรกำลังเริ่มเติบโตชัดเจน ซึ่งจะเด่นมากในไตรมาส 2/64 พร้อมให้ราคาเหมาะสม 1.85 บาท/ หุ้น อิง P/BV 1.65 เท่า
กำไรปกติปี 64-66 กำลังจะขยายตัว 26.5% CAGR ผลักดันจาก (1) กำลังการให้บริการจะเพิ่มขึ้น 45% เป็น 56,669 เดดเวทตัน ภายในปี 66 โดยเรือใหม่เริ่มทยอยให้บริการแล้วตั้งแต่ไตรมาส 2/63 จำนวน 1 ลำ เดือน เม.ย. 64 อีก 1 ลำ และปี 65-66 อีกปีละ 1 ลำโดยเรือ Tanker เหล่านี้มีสัญญาว่าจ้างรอเกือบทั้งหมดแล้ว
(2) อัตรากำไรจะอยู่ในระดับสูง โดย 2 ปีที่ผ่านมา VL ได้ ทยอยนำเรือใหม่ไซส์ใหญ่กว่าเข้ามาทดแทนเรือเก่าไซส์เล็ก ทำให้การขนส่งรอบหนึ่งๆจึงได้กำไรที่สูงขึ้น เกิด Economies of Scale พบว่า อัตรากำไรขั้นต้น มีการขยับขึ้นตลอด 3 ปีที่ผ่านมา จาก 18.6% ในปี 60 สู่ 24.2% ในไตรมาส 3/63 โดยแนวทางนี้ยังคงดำเนินต่อไป โดยเฉพาะในปี 65 VL จะนำเรือลำดับที่ 14 ขนาด 12,000 เดดเวทตัน เริ่มให้บริการ จากปัจจุบันไซส์ใหญ่สุดที่ 5,700 เดดเวทตัน
(3) ลูกค้าหลักบริษัทน้ำมันที่มีสัดส่วนรายได้ราว 45% ที่ปรับปรุงการผลิตกลางปี 63 ปัจจุบันกลับมากลั่นน้ำมันตามปกติ ปริมาณขนน้ำมันจึงคาดฟื้น YoY