PTTEP เตรียมเข้าร่วมประมูลสัมปทานในโอมานเพิ่มอีก 4 แปลง

          นายมารุต มฤคทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.สผ.(PTTEP) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาเข้าประมูลสัมปทานแหล่งผลิตปิโตรเลียมในประเทศโอมานเพิ่มเติมอีก 4 แปลง ซึ่งเป็น แปลงสัมปทานบนบก 2 แปลง และในทะเล 2 แปลง
          ส่วนการต่อสัญญาสัมปทานปิโตรเลียมแหล่งผลิตบงกชเหนือ บล็อก 14, 15, 16 จากเดิมที่จะหมดอายุในปี 2555 ออกไปอีก 10 ปีนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐบาล โดยหากดำเนินการแล้วเสร็จทางบริษัทถึงจะดำเนินการลงทุนพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม บงกชใต้ต่อไป เนื่องจากการลงทุนใหม่ต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าในแหล่งบงกชใต้จะสามารถนำก๊าซธรรมชาติมาขายได้จำนวน 300-400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ภายในปี 2554 ซึ่งเพิ่มจากแหล่งบงกชเหนือที่ขายก๊าซจำนวน 630 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในปัจจุบัน 
ซึ่งมีปริมาณสำรองประมาณ  4-5 ล้านล้านลูกบาก์ศฟุต
          ทั้งนี้ บริษัทมีแนวทางรองรับความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติของประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยระหว่างปี 2552-2554 คาดว่าการบริหารการใช้ก๊าซธรรมชาติของไทยจะตึงตัว เพราะช่วงเวลาดังกล่าวยังไม่มีแหล่งผลิตใหม่จัดส่งก๊าซเข้าระบบ ทำให้รัฐต้องพิจารณาแนวทางใช้ให้รอบครอบ
**ปตท. คาด LNG จากอิหร่านเข้าระบบกลางปี 2554
          ด้าน นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจผลิตและสำรวจปิโตรเลียม บมจ.ปตท.(PTT) กล่าวว่า ความคืบหน้าการเจรจาซื้อก๊าซธรรมชาติเหลวจากประเทศอิหร่านนั้นคงจะมีการเลื่อนแผนการรับซื้อจากเดิมที่คาดว่าจะจัดส่งให้ทางการไทยในปีต้น 2554 ไปเป็นช่วงกลางปีแทน เนื่องจากประเทศอิหร่านมีปัญหาให้เรื่องการก่อสร้างแทนผลิต และการเจรจาต่อรองราคาแอลเอ็นจีปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งต้องรอการเจรจาของประเทศอิหร่านกับทางการจีน และเยอรมนี เพราะมีการซื้อแอลเอ็นจีในแหล่งเดียวกันทำให้ราคาขายต้องเท่ากัน
          โดยทางการอิหร่านยืนยันจะขายแอลเอ็นจีให้กับไทยตามสัญญาที่ทำร่วมกันจำนวน 3 ล้านตันต่อปีในระยะแรก และขยายเป็น 5 ล้านตันปีต่อในอนาคต แต่ในส่วนของ PTT จะไม่เลื่อนแผนการก่อสร้างสถานีรับแอลเอ็นจีและคลังจัดเก็บ โดยหากการเจรจาซื้อก๊าซแอลเอ็นจีจากอิหร่านล่าช้า ขณะนี้ PTT ก็อยู่ระหว่างการเจรจารับซื้อแอลเอ็นจีเพิ่มเติมจากประเทศออสเตรเลีย แอฟริกา อียิปต์ และประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลาง