แหล่งข่าวผู้บริหาร บมจ.ช.การช่าง (CK) คาดว่าในปี 64 บริษัทมีรายได้ใกล้เคียงปี 63 ที่คาดว่าจะรับรู้รายได้ใกล้ 2 หมื่นล้านบาท จากงานในมือ (Backlog) ณ สิ้นปี 63 อยู่ราว 2.5 หมื่นล้านบาทหลังจากมีงานใหม่เข้ามาเพียง 4-5 พันล้านบาทเท่านั้น เพราะไม่มีงานภาครัฐออกมาเลยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
"ในปี 64 คาดว่ารายได้ใกล้กับปีที่แล้วใกล้ๆ 2 หมื่นล้านบาท เพราะว่ามีแต่งานเดิม งานใหม่ไม่เข้ามาเลย ก็รองานใหม่ที่ภาครัฐเปิดประมูล ยังคาดเดาไม่ได้ว่าจะได้งานเท่าไร ขึ้นกับงานที่ออกมา"แหล่งข่าว CK กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้คาดว่าจะมีงานภาครัฐออกมาประมูลอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วงด้านใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นงานโยธา 7.7 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะออกทีโออาร์ในเร็วๆ นี้
และ ยังมีโครงการรถไฟทางคู่ จำนวน 3 สาย ได้แก่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สายบ้านไผ่-นครพนม และ สายขอนแก่น-หนองคาย รวมมูลค่ากว่า 1.5 แสนล้านบาท โดยเฉพาะสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มี 3 สัญญา และมูลค่างานสูง เนื่องจากเป็นงานระเบิดอุโมงค์ที่บริษัทมีความชำนาญ โดยสัญญาที่ 1 มีมูลค่างาน 26,599 ล้านบาท สัญญาที่ 2 มูลค่างาน 26,914 ล้านบาท และสัญญาที่ 3 มูลค่างาน 19,406 ล้านบาท ซึ่ง CK คาดหวังได้งานอย่างน้อย 1 สัญญา
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มยังต้องรอคำตัดสินของศาลปกครองเสียก่อน
นอกจากนี้ ยังมีงานอุโมงค์ระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้แก่ อุโมงค์ระบายน้ำคลองเปรมประชากร มูลค่างาน 9.6 พันล้านบาท จะเปิดให้ยื่นซองประมูลวันที่ 27 ม.ค.นี้ , อุโมงค์ระบายน้ำคลองทวีวัฒนา มูลค่างาน 2.2 พันล้านบาท, อุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ มูลค่างาน 1.7 พันล้านบาท และ อุโมงค์ระบายน้ำคลองมหาสวัสดิ์ มูลค่างาน 2.7 พันล้านบาท
รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางใน สปป.ลาว ที่มีมูลค่างานโยธาประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งระหว่างนี้รอ บมจ.ซีเค พาวเวอร์ (CKP) เจรจากับรัฐบาล สปป.ลาว ยังต้องลุ้นว่าจะเจรจาจบทันปีนี้หรือไม่ ขณะที่งานก่อสร้างในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา)ที่ CK เข้าร่วมทุนนั้น ต้องรอการเจรจาแบ่งส่วนงานของ CK ให้จบก่อน