นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง (FTE) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมปี 64 ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็น สัดส่วนรายได้จากงานเอกชน 75% และภาครัฐ 25% ขณะที่จะรักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 10%
แผนงานปีนี้มุ่งเน้นกลยุทธ์เชิงรุกเจาะกลุ่มลูกค้าภาคเอกชนเพิ่มรายได้ทดแทนงานส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัว ประกอบด้วย 1.การขยายฐานลูกค้างานรับเหมาออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ศูนย์คอมพิวเตอร์ดาต้าเซ็นเตอร์ 2.โรงงานประกอบเครื่องสูบน้ำดับเพลิง (Fire pumps) สามารถดำเนินการได้ในปีนี้ โดยผลิตสินค้าที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน ส่งมอบสินค้าได้ตามกำหนดหรือเร็วกว่ากำหนด และต่อยอดไลน์สินค้าในอนาคต 3.อุปกรณ์สำหรับศูนย์คอมพิวเตอร์ดาต้าเซ็นเตอร์ ที่มองว่าจะมีการเติบโตในปีนี้
ขณะที่งานในส่วนของภาครัฐ เน้นการรับงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อาทิ งานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงสถานีไฟฟ้าแรงสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) งานปรับปรุงระบบดับเพลิงในสถานบริการด้านสาธารณสุขทั้งภาครัฐและเอกชน งานปรับปรุงระบบดับเพลิงสนามบินทั่วประเทศ และเตรียมความพร้อมในการยื่นประมูลงานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟทางคู่
นอกจากนี้ บริษัทได้เพิ่มประสิทธิภาพด้านงานขาย โดยเพิ่มทีมขายที่มีความเชี่ยวชาญ อีกทั้งมีแผนที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์รูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการใช้งานของกลุ่มลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน
"ภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ยังมีความเสี่ยงเรื่องความล่าช้าของโครงการภาครัฐ และการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ บริษัทจึงมุ่งเน้นเข้ารับงานในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโต ซึ่งเชื่อว่ากลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้ ประกอบกับความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนของบริษัทจะสามารถรักษาอัตราการเติบโต และอัตราการทำกำไรได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ พร้อมรักษาความเป็นผู้นำตลาดอันดับหนึ่ง"นายทักษิณ กล่าว
นายทักษิณ กล่าวว่า บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ปัจจุบันอยู่ที่ 400 ล้านบาท แบ่งเป็นงานจัดจำหน่าย 100 ล้านบาท งานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง 300 ล้านบาท และยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างรอผลพิจารณางานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง ซึ่งมีโอกาสได้งานสูงอีกมูลค่าโดยรวมประมาณ 450 ล้านบาท ขณะที่จะเข้าประมูลงานของทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง