(เพิ่มเติม) บล.ไทยพาณิชย์ ตั้งเป้ามีมาร์เก็ตแชร์ไม่ต่ำกว่า 8% ภายใน 3 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 11, 2007 13:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บล.ไทยพาณิชย์ ประกาศตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ 8% ภายใน 3 ปี โดยปรับทัพเน้นลุกค้าสถาบันทั้งในและต่างประเทศ หลังสามารถเจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยสำเร็จก่อนหน้านี้ไปแล้ว พร้อมมีเป้าหมายเป็นอันดับหนึ่งผู้ให้บริการด้านวาณิชธนกิจครบวงจร โดยภายในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
มล.ชโยทิต กฤดาการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ปีนี้คาดว่าจะมีกำไรสุทธิที่ 500 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปีก่อนที่มีกำไร 600 ล้านบาท เนื่องจากวอลุ่มตลาดที่ปรับตัวลดลง ทำให้ลูกค้าในส่วน Corporate ชะลอการลงทุน นอกจากนี้ปัญหาซับไพร์มยังเป็นปัญหากดดันทางอ้อมที่กดดันการลงทุนทั้งในไทยและประเทศอื่น
แม้ว่าจะมีปัจจัยกดดันดังกล่าว แต่บล.ไทยพาณิชย์ยังจะพยายามรักษามาร์เก็ตแชร์ในปีนี้ให้อยู่ที่ 5.5% แม้ว่าจะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีมาร์เก็ตแชร์ 7% จากปัจจัยภาวะตลาดโดยรวมที่ชะลอลง โดยในช่วงที่ผ่านมาได้มีการปิดสาขาไป 7แห่ง ทำให้ปัจจุบันเหลือสาขาอยู่ 8 สาขา และอาจมีบางสาขาที่จะต้องควบรวมกัน
ด้านนายกฤษฎา สวามิภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนเพิ่มสัดส่วนลูกค้าสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ที่ปัจจุบันลูกค้าสถาบันมีสัดส่วน 55% รายย่อย 45% เพื่อทดแทนรายได้จากบริษัทในเครือ คือ บลจ.ไทยพาณิชย์ และ บริษัท แคปปิตอล เซอร์วิส ซึ่งบริษัทจะต้องคืนหุ้นให้กับบริษัทแม่ในปีหน้าตามนโยบายของบริษัท
บริษัทยังมีแผนเพิ่มวงเงินลูกค้าไฮเน็ทเวิร์ค เป็น 10 ล้านบาท จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 3-5 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทมีบัญชีลูกค้า 1 หมื่นบัญชี แอคทีฟ 3 พันบัญชี โดยเป็นลูกค้าสถาบันต่างประเทศ 40 ราย ที่แอคทีฟ และเปิดบัญชีโดยตรงกับบริษัท
พร้อมกันนั้น บริษัทยังคาดหวังผลตอบแทนจากพอร์ตลงทุน ซึ่งบริษัทมีแผนจะลงทุนราว 1-5-2 พันล้านบาทในบริษัททั้งในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาด เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท โดยตั้งเป้าผลตอบแทนการลงทุนในระดับ 20% ใน 1-2 ปีข้างหน้า และมองการลงทุนในต่างประเทศที่มีอัตราการเติบโตไม่ว่าจะเป็นจีน อินโดฯ เป็นต้น
"เชื่อว่า สถาบัน และพอร์ตจะทดแทนรายได้จากบริษัทในเครือที่หายไป ที่ปัจจุบันมีรายได้จากบริษัทในเครือ 30% หรือประมาณ 200 ล้านบาท" นายกฤษฎา กล่าว
**ปรับลดเป้าดัชนีปีนี้ลงเหลือ 890 จุด
สำหรับภาวะตลาดหุ้นปีนี้ นายกฤษฎา กล่าวว่า บริษัทคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ดัชนี SET จะอยู่ที่ 890 จุด ซึ่งเป็นการปรับใหม่ในช่วงเดือนก.ย. จากเดิมที่มองดัชนี SET ที่ 938 จุด เนื่องจากปัจจัยภายนอกเรื่องความกังวลเศรษฐกิจของสหรัฐที่เกิดภาวะถดถอย ขณะที่ความกังวลภายในประเทศคือ ตัวเลขส่งออกที่ชะลอการเติบโตลง รวมถึงเม็ดเงินการใช้จ่ายของภาครัฐที่ยังไม่ออกมาเต็มที่
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าต่างชาติยังสนใจลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะเมื่อมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง น่าจะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุน ประกอบกับ ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นน่าจะทำให้กลุ่มพลังงานที่ถือเป็นกลุ่มหลักของตลาดปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยมองกำไรบจ.ในปีนี้จะเติบโตราว 10% แต่ปีหน้าเชื่อว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 30% และเชื่อว่า เมื่อการเมืองมีความชัดเจนและสามารถกำหนดวันเลือกตั้งชัดเจน การลงทุนจะกลับมาและเข้าสู่ภาวะปกติได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ