ภาวะตลาดหุ้นสิงคโปร์:แรงขายทำกำไรถ่วงสเตรทส์ไทม์ปิดขยับลง 8.54 จุด

          ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดปรับตัวลดลงท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวนในวันนี้(28 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเทขายหุ้น หลังจากที่ดัชนีพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือระดับ 3,700 จุด เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
          โดยหุ้นจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดสิงคโปร์ดีดตัวสูงขึ้นทั่วทั้งกระดาน จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจจีนจะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้ว่าสหรัฐจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจซบเซาอยู่ก็ตาม 
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ปิดลดลง 8.54 จุด หรือ 0.2%  แตะระดับ  3,706.23 จุด หลังจากเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 3,679.59 -3,726.53 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 31.0 หมื่นล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 3.78 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์
          บริษัทหลักทรัพย์ดีเอ็มจี แอนด์ พาร์ทเนอร์กล่าวว่า ในระยะนี้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นหลังจากที่ตลาดปิดร่วงลงอย่างหนักในช่วงกลางเดือนส.ค.จากความหวั่นวิตกต่อผลกระทบด้านวิกฤติซับไพรม์ของสหรัฐ ดังนั้นการปรับฐานลงของตลาดจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
          อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่า ตลาดจะปรับฐานลงในระยะสั้นๆ แต่แนวโน้มตลาดในระยะยาวจะยังคงสดใส
          นาจิบ จาร์ฮอม นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ฟราเซอร์กล่าวว่า ตลาดได้รับปัจจัยหนุนที่แข็งแกร่ง ซึ่งคาดว่าจะทำให้ดัชนีพุ่งขึ้นสู่ระดับแนวทดสอบที่ 4,000 จุดอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า 
          ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มต่อเรือยังคงปรับตัวสูงขึ้นจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่ตลาดน้ำมันสิงคโปร์ จากการที่บริษัทได้รับยอดสั่งซื้อแท่นขุดเจาะน้ำมันจำนวนมาก
          โดยหุ้นคอสโค คอร์ปปิดพุ่งขึ้น 30 เซนต์ หุ้นลาบรอย มารีนปิดขยับขึ้น 3 เซนต์ และหุ้นหยางชีเจียงของจีนปิดเพิ่มขึ้น 18 เซนต์     
          หุ้นเคปเพล คอร์ปิดบวก 10 เซนต์ หลังจากบริษัทได้คว้าสัญญาการก่อสร้างและสร้างโรงงานบำบัดน้ำเสียมูลค่า 1.50 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในกาตาร์