นายสิโรตม์ รัตนามหัทธนะ กรรมการ และ รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมท (MCOT) เปิดเผยว่า ในปี 2564 บมจ. อสมท จะขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ "เป็นผู้นำเสนอเนื้อหาที่น่าเชื่อถือ เที่ยงตรง และรวดเร็ว Provider of trustworthy, accurate and timely content" โดยต้องการพัฒนาธุรกิจเดิมให้มีความแข็งแรง เพื่อรักษารายได้และเรตติ้ง ก่อนปรับระบบการผลิตให้มีความเป็นดิจิทัลมากยิ่งขึ้นในอนาคต
"ปัจจุบันธุรกิจสื่อโทรทัศน์และวิทยุส่วนใหญ่จะปรับตัวให้เป็นสื่อดิจิทัลแพลตฟอร์มมากขึ้น แต่ข้อเท็จจริงยังเป็นที่ประจักษ์ว่าตัวเลขของคนที่รับชมโทรทัศน์ และวิทยุไม่ได้น้อยลงจากเดิมมาก แต่กลับมีการเติบโตและมีการแข่งขันที่สูงขึ้นในทุกปี ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำมากที่สุดในตอนนี้คือ การพัฒนาธุรกิจเดิมที่เรามี ให้น่าสนใจ และหลากหลายเพื่อสอดรับกับคนทุกกลุ่ม รวมถึงเตรียมแผนปรับตัวให้พร้อมกับสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงในอนาคต" นายสิโรตม์ กล่าว
นายสิโรตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้จะต้องเผชิญกับภาวะการชะลอตัวของเศษฐกิจอันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ประกอบกับการเกิดขึ้นของสื่อดิจิทัลภายใต้การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วและรุนแรง ทำให้ บมจ.อสมท ต้องปรับแผนธุรกิจ รวมถึงปรับโครงสร้างองค์กรและกระบวนการทำงานให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ จะมุ่งเน้นการสร้างรายได้จากการพัฒนาสินทรัพย์ที่ดินที่ อสมท มีอยู่ให้เกิดมูลค่าทางธุรกิจ อาทิ การพัฒนาโครงการบนที่ดินย่านรัชดา-พระราม 9 หลังจากปีที่ผ่านมา บมจ.อสมท ได้เปิดให้นักลงทุนและบุคคลที่สนใจร่วมเสนอแนวคิดในการพัฒนาที่ดินกรรมสิทธิ์ของ อสมท บนพื้นที่ 50 ไร่ ติดศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อให้การพัฒนาที่ดินเกิดประโยชน์สูงสุด โดยเชื่อว่าจะได้นักลงทุนเข้ามาพัฒนาที่ดินฯ ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2564
สำหรับแฟนรายการของช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 ในปี 2564 บมจ.อสมท ได้ส่งรายการแนว ส่งเสริมความรู้และสาระบันเทิง หลากหลายแนวตลอดทั้งสัปดาห์ พร้อมซีรีส์ดังจากทุกมุมโลก ทั้งเอเชียฟอร์มยักษ์ พรีเมียมจากประเทศอังกฤษ ตลอดจนซีรีส์อินเดียยอดนิยม ในส่วนของธุรกิจวิทยุ อสมท ได้วางแผนธุรกิจเพื่อรองรับการเรียกคืนคลื่นความถี่ที่อาจจะมีขึ้นในปี 2565 โดยให้แต่ละคลื่น เตรียมความพร้อมในการนำเสนอเนื้อหาสาระใน Platform ออนไลน์มากขึ้น นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือการนำเสนอในรูปแบบดิจิทัลมากยิ่งขึ้น
"ในปี 2563 ที่ผ่านมา บมจ. อสมท ได้เปิดโครงการร่วมใจจากองค์กร (MSP) เพื่อปรับลดจำนวนบุคลากรให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจในอนาคต ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวสามารถช่วยลดค่าใช้จ่าย ด้านบุคลากรได้มากถึง 25 % ขณะที่ปี 2564 ฝ่ายบริหารได้บูรณาการการทำงานของส่วนงานขายและส่วนงานการตลาดให้มีเป้าหมายในการสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ของ อสมท และเตรียมใช้กลยุทธ์ Strategic Partnership ในการหาพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจใหม่ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานะทางการเงินของ อสมท" นายสิโรตม์ ระบุ