AOT คาดได้ข้อสรุปขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ต้นปี 51 เล็งกู้เงินเจบิค

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 14, 2007 16:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT)เตรียมแผนขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงต้นปี 51 หลังจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO) ศึกษารายละเอียดของแผนเสร็จ จากนั้นจะขออนุมัติต่อคณะกรรมการ ทอท.และ ครม.ต่อไป 
ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้นั้น ขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่าจะนำมาจากแหล่งใด แต่อาจหารือกับธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิค) ซึ่งเห็นว่าเจบิคก็มีความสนใจที่จะให้กู้เพื่อมาใช้ลงทุนด้วย
"ในปี 2551 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก็จะมีผู้โดยสารเต็มขีดความสามารถในการรองรับ 45 ล้านคน ดังนั้นในเบื้องต้น ทอท. จึงต้องแบ่งสายการบินบางส่วนไปที่ท่าอากาศยานดอนเมือง รวมทั้งยังมีแผนจะขยายอาคารผู้โดยสาร และอาคารเทียบเครื่องบินเพิ่ม ซึ่งจะเชื่อมโยงกับอาคารเดิมและปัจจุบันก็มีการขุดอุโมงค์เพื่อใช้เป็นทางเดินผู้โดยสารไว้อยู่แล้ว โดยการก่อสร้างอาคารดังกล่าวจะทำให้ผู้โดยสารเดินทางขึ้นเครื่องได้สะดวก รวดเร็วขึ้น"นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ AOT กล่าว
พร้อมกันนี้ นายเสรีรัตน์ได้ประเมินความพอใจหลังการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้อยู่ในระดับ บี พร้อมตั้งเป้าเป็นท่าอากาศยานที่มีการให้บริการที่ดีที่สุดในโลกติด 1 ใน 5 ภายในปี 56 โดยเตรียมจะส่งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเข้าประกวดท่าอากาศยานที่มีการให้บริการที่ดีที่สุดในโลก
"เราตั้งเป้าว่าในปี 52 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะติดอันดับ 1 ใน 10 และในปี 56 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะเป็นท่าอากาศยาน 1 ใน 5 ที่มีการให้บริการที่ดีที่สุดในโลก" นายเสรีรัตน์ กล่าวในงานแถลงข่าวครบรอบ 1 ปีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันนี้
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนต.ค. 49 - ส.ค.50 มีผู้โดยสารมาใช้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรวม 38,748,257 คน แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 29,998,585 คน ผู้โดยสารภายในประเทศ 8,49,672 คน โดยมีเที่ยวบินมาใช้บริการรวม 246,967 เที่ยว แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 175,435 เที่ยว ภายในประเทศ 71,532 เที่ยว และมีจำนวนสินค้ารวม 1,119,682 ตัน แบ่งเป็นสินค้าระหว่างประเทศ 1,081,070 ตัน สินค้าภายในประเทศ 38,612 ตัน
นอกจากนี้นายเสรีรัตน์ ยังได้รายงานถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นด้วยว่า มีการว่าจ้างกลุ่มบริษัท IMMS/JAC/KJV วงเงิน 61.407 ล้านบาท สิ้นสุด 15 ม.ค.51 ในการศึกษาหาสาเหตุของความเสียหายของทางขับและทางงวิ่ง รวมถึงขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการซ่อมแซมทางขับและทางวิ่ง ซึ่งเป็นการซ่อมแซมกึ่งถาวร โดยกลุ่มไอโอที จอยเวนเจอร์ เป็นผู้รับผิดชอบในการซ่อมแซมเนื่องจากอยู่ในระยะเวลาประกัน
ส่วนป้ายภายในอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบิน ก็ได้จัดทำป้ายชั่วคราวที่มีมาตรฐานเดียวกันเพิ่มเติมตามจุดต่างๆ เช่นป้ายบอกแถว เช็คอิน ป้ายห้องน้ำ ป้ายทางเดินหนีไฟ ป้ายทางไปประตูทางออกขึ้นเครื่อง
นอกจากนี้ ยังมีความคืบหน้าในการก่อสร้างห้องน้ำจากเดิมที่มี 1,464 ห้อง โดยมีแผนจะสร้างเพิ่ม 208 ห้อง และขณะนี้เสร็จไปแล้ว 11 ห้อง อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 145 ห้อง จะเสร็จในเดือนต.ค. และ พ.ย. 50 ที่เหลืออีก 52 ห้อง อยู่ระหว่างการแก้ปัญหาการย้ายสำนักงานออกจากพื้นที่ และหากมีการก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้มีห้องน้ำเพิ่ม 1,672 ห้อง รวมถึงการแก้ปัญหาแสงสว่างได้มีการปรับโคมไฟให้สามารถส่องลงมาที่พื้นได้โดยตรงและติดตั้งไฟฟ้าเพิ่มในอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบินให้ได้มาตรฐาน และติดตั้งหลอดไฟเป็นฟลูออเรเซ่นส์ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน และเร่งเปลี่ยนหลอดไฟที่ขาดไปแล้ว 2,500 ดวง และจะดูแลเปลี่ยนไปตามอายุการใช้งาน
สำหรับการติดตั้งกล้องวงจรปิดนั้นมีการติดตั้งเพิ่ม 218 ตัว เพื่อเสริมมาตรการการรักษาความปลอดภัย จากจำนวนที่มีอยู่เดิม 1,050 ตัว โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในสิ้นปีนี้ ส่วนเก้าอี้พักคอยผู้โดยสารนั้น เดิมมี 23,070 ตัว มีการนำมาเพิ่มจากท่าอากาศยายดอนเมือง 1,118 ตัว ทำให้มีรวมทั้งหมด 24,188 ตัว มากกว่าท่าอากาศยานดอนเมือง 11,116 ตัว และอยู่ระหว่างการจัดซื้อเก้าอี้บุหนังเพิ่มอีก 250 ตัว
ส่วนการแก้ปัญหาร้านค้าบดบังทางหนีไฟนั้น สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัม (วสท.) กำลังจัดทำรายงานเพื่อนำมาปรับปรุงและจัดระเบียบป้ายและร้านค้า รวมถึงการแก้ไขพื้นที่ผู้โดยสารขาเข้าแออัด ได้มีการย้ายเคาน์เตอร์ให้บริการออกไปบางส่วนและจัดระเบียบผู้โดยสารใหม่ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกมากขึ้น
นายเสรีรัตน์ ยังกล่าวถึงการปราบปรามรถแท็กซี่ป้ายดำและไกด์ผีด้วยว่า ปัจจุบันได้รับความร่วมมือจากตำรวจภูธรภาค 1 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาปราบปรามอย่างเข้มงวด ซึ่งในเร็วๆนี้จะอนุญาตให้แท็กซี่ขึ้นมารอรับผู้โดยสารที่ชั้น 2 เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารจากเดิมที่ต้องเดินลงไปชั้น 1 ซึ่งจุดนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้แท็กซี่ป้ายดำ และไกด์ผีเข้ามาหลอกลวงผู้โดยสาร รวมถึงจะขอความร่วมมือกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในการรับส่งผู้โดยสารบริเวณชั้น 1 และ 4 ของอาคารผู้โดยสารได้โดยตรง เพื่อไม่ให้ผู้โดยสารเสียเวลาในการเดินทาง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ