บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) และมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ลงนามในสัญญาร่วมทุนจัดตั้งห้องปฏิบัติการกลาง เพื่อตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ เช่น หน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 และชุดกาวน์ หวังยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เพิ่มมูลค่าในเชิงพาณิชย์ ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล และเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยได้อย่างทั่วถึง คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/64 ลดการพึ่งพาการนำเข้าและเพิ่มเสถียรภาพด้านสาธารณสุขของประเทศอย่างยั่งยืน
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ IRPC กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจสุขภาพ สุขอนามัยและการแพทย์ เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจใหม่ที่ IRPC ให้ความสำคัญ และเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีปลายน้ำให้เข้าใกล้ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นได้ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ ในกลุ่ม Smart material ของบริษัท และยังเป็นการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยีที่ทันสมัย และเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งมาสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการแพทย์ เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตใหม่และสอดรับกับเศรษฐกิจเชิงสุขภาพ (Wellness Economy) ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็ว
โครงการนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่ผลักดันให้ IRPC เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาทางการแพทย์อย่างเต็มตัว ขณะเดียวกัน ก็เป็นการตอบแทนสังคมในการร่วมสร้างความมั่นคง และเข้มแข็งทางด้านสาธารณสุขให้กับประเทศไทย ต่อยอดความร่วมมือในกลุ่มบมจ.ปตท. (PTT) ระหว่าง IRPC และปตท.ในการศึกษาการลงทุนผลิตผืนผ้า Melt Blown ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์สาธารณสุข อาทิ หน้ากากอนามัย หน้ากาก N95
สำหรับความร่วมมือในการจัดตั้งห้องปฏิบัติการกลาง เพื่อตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นการนำความรู้ความเชี่ยวชาญจากภาคเอกชนในด้านเทคโนโลยีนวัตกรรม การพัฒนาธุรกิจและการตลาด ผนวกกับศักยภาพการวิจัยทางด้านการแพทย์ โดยมุ่งหวังให้บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนได้ใช้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและผ่านการรับรองตามมาตรฐานสากล ช่วยยกระดับอุปกรณ์ทางการแพทย์ของประเทศไทยที่เป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S-Curve) เพื่อขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาของกลุ่ม ปตท. ต่อไป
นายสุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวว่า ความร่วมมือในการสร้างห้องปฏิบัติการกลางสำหรับให้บริการตรวจสอบหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 และชุดกาวน์ ระหว่างมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช และ IRPC จะเป็นส่วนสนับสนุนการพัฒนาด้านสาธารณสุขของประเทศ ช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยสามารถผลิตอุปกรณ์การแพทย์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล ลดการพึ่งพาการนำเข้า สามารถควบคุมคุณภาพ ปริมาณการผลิต และความปลอดภัยของประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ได้ในภาวะวิกฤติ
นพ.อนันต์ มโนมัยพิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวว่า ประเทศไทยมีนโยบายส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางการให้บริการทางการแพทย์ของประเทศตั้งแต่ปี 2547 ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้บริการในโรงพยาบาลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 16.5% เป็นผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์เพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งเกิดสถานการณ์ขาดแคลนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลในภาวะวิกฤตbที่ผ่านมา และยังจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ
ความร่วมมือในการจัดตั้งห้องปฏิบัติการกลางเพื่อตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์นี้ จะนำเข้าเครื่องมือ และอุปกรณ์ทดสอบที่มีประสิทธิภาพ ให้ผลการทดสอบที่ถูกต้องและแม่นยำตามมาตรฐาน มอก. 2424-2562 สำหรับหน้ากากอนามัย และ มอก. 2480-2562 สำหรับหน้ากาก N95 ซึ่งเทียบเท่ามาตรฐาน ASTM และ EN ในต่างประเทศ โดยนำองค์ความรู้ ประสบการณ์ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และด้านการแพทย์ของทั้งภาคเอกชนและมหาวิทยาลัยมาใช้ในการบริหารจัดการให้ดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพด้วยธรรมาภิบาล เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับตามมาตรฐานสากล อีกทั้งจะเป็นการวางรากฐานการพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจรที่ได้มาตรฐานในประเทศไทย
สำหรับห้องปฏิบัติการกลางเพื่อตรวจสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์นี้ จะตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 นี้