บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) วางงบการตลาดในไตรมาส 1/64 จำนวน 200 ล้านบาท ขานรับนโยบายภาครัฐที่จะประกาศคลายมาตรการเข้มข้นในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 พร้อมจับมือกับ บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น(CRC) และพันธมิตรธุรกิจอื่น ๆ จัดแคมเปญ"The Great Chinese New Year 2021- The Land of Luck" ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน พร้อมอัดโปรโมชั่นทั่วทุกศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า สินค้าลดสูงสุด 70% และสินค้าใหม่ลดสูงสุด 30% ตั้งแต่ 29 ม.ค.-21 ก.พ.64 คาดว่าจำนวนผู้เข้าใช้บริการ (Traffic) เพิ่มขึ้น 15-20%
นายณัฐกิตติ์ ตั้งพลูสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด CPN กล่าวว่า ปัจจุบันศูนย์การค้าในเครือ CPN มากกว่าครึ่งมียอดผู้เข้าบริการศูนย์การค้า (Traffic) เฉลี่ย 60-75% โดยสาขาในภูมิภาคอัตราผู้เข้าใช้บริการเฉลี่ยอยู่ที่ 55-60% ซึ่งสาขาที่มียอดTraffic มากกว่า 75% ได้แก่ ศาลายา อุบลราชธานี หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช และเชียงราย เพราะเป็นพื้นที่ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากสาขาห้างสรรพสินค้าในเครือทั้งหมด 33 สาขาทั่วประเทศ (รวม เซ็นทรัลวิลเลจ) ขณะที่สาขามหาชัยและสาขาระยองปิดชั่วคราว
CPN ได้วางงบลงทุนราว 200 ล้านบาทเพื่อรองรับการทำการตลาดในไตรมาสแรกของปีหลังจากนโยบายภาครัฐจะประกาศคลายล็อกดาวน์มาตรการต่าง ๆ รวมถึงการจัดแคมเปญช่วงเทศกาลตรุษจีนและเทศกาลวาเลนไทน์ในเดือน ก.พ.นี้ ซึ่งจะจับมือกับ บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอปอเรชั่น (CRC) และบัตรเครดิตธนาคารต่างๆ ในแคมเปญ"The Great Chinese New Year 2021- The Land of Luck" อัดโปรโมชั่นทั่วทุกศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในเครือ ลดสูงสุด 70% และสินค้าใหม่ลดสูงสุด 30% ตั้งแต่ 29 ม.ค.-21 ก.พ.64 คาดว่าจะทำให้ Traffic เพิ่มขึ้น 15-20%
"ตอนปลดล็อก Traffic ก็ขึ้นมา5% และมีโปรโมชั่นก็เชื่อว่า Traffic ขึ้นมา 15-20% คนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น น่าจะมีโอกาสที่ Traffic ถึง 80%"นายณัฐกิตติ์ กล่าว
ส่วนศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด ปัจจุบันมี Traffic อยู่ 48-50% หรือประมาณ 40,000 -50,000 คน/วัน จากก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาดอยู่ที่เกือบ 1 แสนคน/วัน โดยขณะนี้เซ็นทรัลเวิล์ดยังไม่สามารถจัดอีเว้นท์ได้ อย่างงาน Japan Expo ที่มีกำหนดจะจัดในไตรมาส 1/64 ก็ต้องเลื่อนออกไป ขณะที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลภูเก็ตยอด Traffic กลับมาได้แล้ว 55-60% ส่วนเซ็นทรัลป่าตองที่ต้องปิดทำการชั่วคราวไปนั้นไม่ได้อยู่ภายใต้การบริหารของ CPN
อย่างไรก็ตาม นายณัฐกิตติ์ เชื่อว่า ผลประกอบการในปี 64 น่าจะสดใสกว่าปี 63 จากผลของการมีวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ออกมา น่าจะเป็นตัวสร้างความมั่นใจลูกค้ามากขึ้น รวมถึงประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้อย่างดี โดยคาดว่า Traffic ในช่วงปลายปีจะเพิ่มขึ้นเป็น 80% หลังจากมีวัคซีน ประกอบกับเข้าสู่ช่วงปิดเทอมและฤดูการท่องเที่ยวที่น่าจะเริ่มฟื้นกลับมาได้
นายณัฐกิตติ์ กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ระบาดก็ยังคงอยู่กับเราเป็นปี โดยรอบนี้รัฐบาลใช้มาตรการสกัดการแพร่ระบาดเป็นรายพื้นที่ ซึ่งถือว่ามาถูกทาง เพราะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจสามารถขับเคลื่อนไปได้ บริษัทจึงได้ปรับเพิ่มงบการตลาดจาก 80 ล้านบาท มาเป็น 200 ล้านบาทในไตรมาสแรกปีนี้ ส่วนในช่วงที่เหลือของปีจะมีงบการตลาดเพิ่มเติมหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาดโควิด-19 บริษัทยังต้องวางแผนกันเดือนต่อเดือน
สำหรับงบลงทุนทั้งปีนี้บริษัทยังคงไว้ที่ประมาณ 1.5-2 หมื่นล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะใช้เพื่อเปิดศูนย์การค้าใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลศรีราชา และ เซ็นทรัลอยุธยาในช่วงปลายปีนี้ อีกส่วนหนี่งจะใช้เพื่อปรับปรุงเซ็นทรัลพระราม 2