เมื่อเวลา 10.05 น.หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ขยับขึ้นได้ดี ประกอบด้วย หุ้น SPALI บวก 3.02% มาอยู่ที่ 20.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 49.26 ล้านบาท
หุ้น LPN บวก 1.26% มาอยู่ที่ 4.84 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท มูลค่าซื้อขาย 1.09 ล้านบาท
หุ้น ANAN บวก 1.98% มาอยู่ที่ 2.06 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท มูลค่าซื้อขาย 3.23 ล้านบาท
หุ้น SIRI บวก 1.16% มาอยู่ที่ 0.87 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท มูลค่าซื้อขาย 7.95 ล้านบาท
ขณะที่ดัชนี SET อยู่ที่ 1,510.98 จุด ลดลง 1.85 จุด (-0.12%)
บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ที่ประชุม ครม.วานนี้ (26 ม.ค.21) มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยลดภาระรายจ่ายให้กับประชาชน และผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ดังนี้ 1. ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรอบปี 2564 ลง 90% และ 2. ขยายเวลามาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนเหลือ 0.01% (จาก 2%) และค่าจดจำนองเหลือ 0.01% (จาก 1%) สำหรับบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ลงในราชกิจจานุเบกษาถึงวันที่ 31 ธ.ค.64
ฝ่ายวิจัยมองเป็นบวกเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ โดยประเมินกลุ่ม property จะได้ประโยชน์จากมาตรการขยายเวลาลดค่าธรรมเนียมการโอน และจดจำนอง จากเดิมที่สิ้นสุดไปแล้วในเดือน ธ.ค.63 โดยยังคงกำหนดบ้านที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหลัง ซึ่งหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์มากสุดจากมาตรการดังกล่าว ได้แก่ LPN และ PSH เนื่องจากมีสัดส่วนบ้าน/คอนโดในระดับราคาดังกล่าวมากสุด
ส่วนการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นบวกค่อนข้างน้อย โดยในส่วนผู้ประกอบการอาจช่วยลดต้นทุนได้เล็กน้อย เนื่องจากส่วนใหญ่ก็ได้ส่วนลดอยู่แล้ว และส่วนในแง่ของผู้ซื้อก็คาดว่าจะกระทบไม่มาก เพราะเดิมจ่ายไม่มากอยู่แล้ว
สำหรับกลุ่ม Property ยังให้น้ำหนักการลงทุนเป็น "Neutral" และ top pick ได้แก่ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) (ซื้อ/เป้าหมาย 10.00 บาท) จาก backlog รอโอนในปี 2564 ที่สูงสุดในกลุ่ม และบมจ.ศุภาลัย (SPALI) (ซื้อ/เป้าหมาย 20.00 บาท) ซึ่งมีแนวโน้มปรับประมาณการขึ้น จากผลการดำเนินงานที่มีแนวโน้มดีกว่าคาด
ขณะที่ บมจ.แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) และบมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) แนะนำเพียง"เก็งกำไรระยะสั้น"เนื่องจากยังมีความเสี่ยงอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่สูง, backlog ต่ำ และแนวโน้มผลการดำเนินงานยังชะลอตัวมากสุดในกลุ่ม