บมจ.ยูนิคไมนิ่งเซอร์วิสเซส (UMS) คาดว่าจะสามารถก่อสร้างคลังสินค้าที่ จ.อยุธยา แล้วเสร็จภายในปลายปีนี้ และจะเปิดดำเนินการได้ในช่วงต้นปี 51 ซึ่งน่าจะส่งผลให้รายได้โตกว่า 30% ต่อเนื่องไป อีกทั้งบริษัทจะมีการทำธุรกิจใหม่ด้านขนส่ง และถ่านหินอัดก้อนเสริมด้วย
ส่วนในปีนี้บริษัทน่าจะมีกำไรสุทธิสูงกว่า 200 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไร 174 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ของบริษัทเติบโตกว่า 30% โดยคาดว่ารายได้น่าจะทะลุ 2 พันล้านบาท
นายชัยวัฒน์ เครือชะเอม กรรมการผู้จัดการ UMS ระบุว่า การเติบโตดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการที่บริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้ไว้ที่ระดับ 30% ใกล้เคียงกับปีก่อน
สำหรับรายได้ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีลูกค้าเพิ่มจำนวนเป็น 300 รายแล้ว จากเดิมที่มีประมาณ 200 ราย หลังจากที่โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ หันมาใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง โดยอุตสาหกรรมที่ใช้ถ่านหินและเป็นลูกค้าของ UMS ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมขนาดกลางและเล็ก
นายชัยวัฒน์ กล่าวถึงความคืบหน้าการออกใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัญ (วอแรนต์) ว่า ยังเชื่อมั่นว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)จะอนุมัติในช่วงกลางเดือนต.ค.นี้ และหลังจากนั้นจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯได้
"ไม่น่าจะมีปัญหา แม้ว่าจะช้ากว่าแผนมาครั้งหนึ่งแล้ว" นายชัยวัฒน์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ UMS ขออนุมัติก.ล.ต.ในออกวอแรนต์จำนวน 70 ล้านหน่วย ในอัตรา 2 : 1 กำหนดเวลาแปลงสภาพในระยะเวลา 3 ปี คือปี 2551-2553 โดยคาดว่า ก.ล.ต.จะอนุมัติในเดือนก.ย. และจะเข้าเทรดในช่วงต้นไตรมาส 4 ปี 50
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--