"Weekly Highlight" สัปดาห์นี้ (1-5 ก.พ.) มาเจาะลึกกับข่าวสารสำคัญ ในรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564
เริ่มต้นกับการสรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่แล้ว (25-29 ม.ค.) SET INDEX ปิดที่ระดับ 1,466.98 จุด ลดลง 2.06% จากสัปดาห์ก่อน โดยกลุ่มหุ้นที่ปรับตัวลดลงส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน ปิโตรเคมี และกลุ่มสื่อสาร เป็นต้น
แม้ว่าภาพรวมบรรยากาศการลงทุนส่งท้ายเดือนมกราคม จะยังคงถูกปกคลุมไปด้วยแรงขายของกลุ่มผู้ลงทุนต่างชาติและผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ ส่วนหนึ่งเกิดจากปัจจัยลบด้านจิตวิทยาภายหลังทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯครั้งล่าสุดที่ไม่ได้ออกมาตรการใหม่เพิ่มเติมช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้จะยอมรับว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 กำลังส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกันนักวิเคราะห์หลายๆสำนัก ก็เริ่มมองว่าการปรับฐานรอบนี้ของดัชนีตลาดหุ้นไทยใกล้สิ้นสุดแล้ว ภายหลังผู้ลงทุนตอบสนองกับปัจจัยด้านลบไปพอสมควร แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่มาจากผู้ติดเชื้อในจังหวัดสมุทรสาครจากการตรวจหาเชื้อเชิงรุก ขณะที่จังหวัดอื่นๆรวมถึงกรุงเทพมหานครสถานการณ์เริ่มกลับมาดีขึ้น ส่งผลให้รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการเข้มงวด เช่น ให้สามารถนั่งรับประทานอาหารในร้านได้ถึง 5 ทุ่มจากเดิม 3 ทุ่ม และกลับมาเปิดการเรียนการสอนตามปกติผสมผสานกับการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ส่วนห้างสรรพสินค้ากลับมาเปิดปิดได้ตามเวลาปกติ
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ประเมินภาพรวมตลาดหุ้นไทยในเดือนกุมภาพันธ์ น่าจะเห็นสัญญาณเป็นบวกมากขึ้นจากการหวนกลับของเม็ดเงินลงทุนของกลุ่มผู้ลงทุนต่างชาติและผู้ลงทุนในประเทศ พร้อมกับเฝ้าจับตาว่าประเทศไทยจะเริ่มฉีดวัคซีนได้ตามแผนที่รัฐบาลประกาศไว้ได้หรือไม่ เพราะจะเป็นแรงสนับสนุนที่สำคัญต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นในภาคตลาดหุ้นเช่นเดียวกับหลายๆประเทศที่ได้เริ่มฉีดวัคซีนไปบ้างแล้ว ส่วนปัจจัยระยะสั้นแนะให้เกาะติดกับผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ว่าจะพิจารณาทบทวนอัตราดอกเบี้ยและส่งสัญญาณต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยหลังจากนี้อย่างไร ทั้งนี้ แนะนำกลยุทธ์การลงทุนเลือกหุ้นใหญ่ที่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับและรับอานิสงส์จากฟันด์โฟลว์ที่ไหลเข้าในปีนี้
"ผมคิดว่าสัปดาห์นี้แม้ว่าบรรยากาศจะยังผันผวน แต่เชื่อ SET INDEX มีดาวน์ไซด์จำกัดแล้วและคงกลับมาตั้งฐานได้แถวๆ 1,450 จุดอีกครั้งและค่อยๆกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นรอบใหม่"นายเทิดศักดิ์ กล่าว
ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์นี้อยู่ที่ 29.80-30.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุม กนง. ความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ และสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ดัชนี PMI และดัชนี ISM ภาคการผลิตเดือนม.ค. 64 ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน รายจ่ายด้านการก่อสร้างเดือนธ.ค. 63 นอกจากนี้ตลาดอาจรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ ดัชนี PMI ภาคการผลิต-ภาคบริการเดือนม.ค. ของจีน ยูโรโซน อังกฤษ และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/63 ของยูโรโซน ด้วยเช่นกัน
https://www.youtube.com/watch?v=WXKRoqz568A&feature=youtu.be