นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ (TNITY) เปิดเผยทิศทางการลงทุนเดือน ก.พ.ว่า จะเป็นลักษณะการแกว่งในกรอบ หลังจากที่ปรับฐานลงมาแรงในช่วงปลายเดือนก่อน จากปัจจัย Valuation ที่ร้อนแรงเกินไป และการขายล็อกกำไรของนักลงทุน ก่อนเข้าสู่เทศกาลประกาศผลประกอบการ
อย่างไรก็ตาม ข้อดีก็คือการปรับฐานรอบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากปัญหาสภาพคล่องแต่อย่างใด แถมทาง ทรีนีตี้ยังไม่กังวลใจกับการลดวงเงิน QE ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) (QE tapering) อย่างน้อย ๆ ก็ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ อีกด้วย ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการปรับตัวลงจะไม่ได้เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง แต่จะมีกลุ่มหุ้นที่แข็งแกร่งกว่าตลาด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่มี Earnings momentum เชิงบวกและระดับ Valuation ไม่สูงมากนัก
ประเมินแนวรับแรกของ SET Index ประจำเดือนนี้ที่ระดับ 1,440 จุด ซึ่งจะเป็นระดับที่ทำให้ Earning yield gap (EYG) ของตลาดหุ้นไทยกลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ยระยะยาวอีกครั้ง ซึ่งนั่นหมายถึงว่าอาจจะเป็นจุดที่นักลงทุนต่างชาติหยุดการขายสุทธิหุ้นไทยได้ ส่วนแนวรับสำคัญประเมินที่บริเวณ 1,400 จุด ในทางกลับกันมองระดับแนวต้านการรีบาวด์ของดัชนีไว้ที่ 1,500 จุด
นายณัฐชาต กล่าวว่า เดือน ก.พ.มี 3 ปัจจัยหลัก ที่ต้องติดตาม คือ 1.การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 3 ก.พ. ที่ให้โอกาสการลดดอกเบี้ยในระดับ 50% อย่างไรก็ตามไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ของไทยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไป จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยและเงินเฟ้อของไทยที่ชะลอตัว
2. ความคืบหน้าของการปรับวิธีคำนวณดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ จาก Full market cap เป็น Free-float adjusted market cap ซึ่งจะส่งผลให้เกิดกลยุทธ์การลงทุนแบบ Pair trade strategy หรือการซื้อหุ้นที่ได้ประโยชน์และขายหุ้นที่เสียประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงการคำนวณดัชนี และ 3.เทศกาลประกาศผลประกอบการ ซึ่งคาดว่าหุ้นขนาดกลาง-เล็กจะมีผลดำเนินงานที่แข็งแกร่งกว่าหุ้นขนาดใหญ่
สำหรับธีมการลงทุนเดือน ก.พ.หากดัชนี SET ยังลงไปไม่ถึงแนวรับที่ 1,440 จุด เดือน ก.พ.แนะนำถือลงทุนในหุ้น 3 ธีม ได้แก่ 1. กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Bond yield ไทยที่อยู่ต่ำ เช่น กลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มไฟแนนซ์ มองตัวที่น่าสนใจได้แก่ GULF และ THANI 2. หุ้นปันผลสูง (SETHD) ที่มักปรับตัวได้ดีในช่วงนี้ของทุกปี โดยหากเลือกตัวที่มีความเชื่อมั่นทางสถิติสูงว่าจะส่งมอบผลตอบแทนที่เป็นบวกในเดือน ก.พ.ได้ จะได้แก่ TISCO และ INTUCH และ 3. หุ้นที่เข้าข่ายได้รับน้ำหนักเพิ่มจากวิธีคำนวณดัชนีใหม่ (Free-float adjusted market cap) และยังมีแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/64 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ ได้แก่ SCC และ KBANK
ในขณะเดียวกัน หากในช่วงระหว่างเดือนดัชนี SET ปรับลงไปถึงบริเวณแนวรับที่ 1,440 จุด แนะนำ "ซื้อกลับ" ในหุ้นกลุ่มวัฏจักรที่เชื่อมโยงกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ได้แก่กลุ่ม ออยล์แอนด์แก๊ส ปิโตรเคมี ซอฟต์คอมมูนิตี้ แพ็กเกจจิ้ง และโลจิสติกส์ มองหุ้นเด่นที่น่าสนใจในแต่ละกลุ่มได้แก่ BCP, IVL, STA, RCL, PTL