นายเอกชัย ชัยตระกูลทอง กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอสทีซี คอนกรีตโปรดัคท์ (STC) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 บริษัทฯ ได้เข้าลงนามสัญญาร่วมทุนกับบริษัท พรีเมียร์ พรีคาสท์ แอนด์ ดีไซน์ จำกัด ในการจัดตั้งบริษัทแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ บริษัท เอสทีซี พรีเมียร์ พรีคาสท์ จำกัด เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิต ผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปประเภทชิ้นส่วนบ้านและอาคารประกอบในระบบ Precast มูลค่า 20,000,000 บาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ภายในไตรมาส 2/64
สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น คือ STC ถือหุ้นสัดส่วน 55% และบริษัท พรีเมียร์ พรีคาสท์ แอนด์ ดีไซน์ จำกัด สัดส่วน 45% แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการลงทุนครั้งนี้มาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ ซึ่งเป็นการนำเงินทุนที่บริษัทได้รับจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) มาใช้ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนดังกล่าว โดยมองว่าเป็นแผนการลงทุนระยะแรก มีโอกาสต่อยอดการเติบโตอื่นๆ อีกในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัท เอสทีซี พรีเมียร์ พรีคาสท์ จำกัด จะดำเนินธุรกิจออกแบบผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป ได้แก่ เสา คาน พื้น ผนัง ในระบบพรีคาสท์ (Precast) รวมทั้ง ผลิตและติดตั้งผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป ได้แก่ เสา คาน พื้น ผนัง ในระบบพรีคาสท์ (Precast) และ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปในระบบพรีคาสท์ให้แก่บุคคลและองค์กรทั่วไป
สำหรับประโยชน์จากการลงทุนครั้งนี้ จะสนับสนุนให้บริษัทมีผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันในตลาดคู่แข่ง และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครอบคลุมเพิ่มขึ้นและเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจคอนกรีตในเมืองพัทยา นอกจากนี้ บริษัทร่วมทุนจะต้องมีการใช้คอนกรีตผสมเสร็จในการผลิตผลิตภัณฑ์พรีคาสท์ ดังนั้น บริษัทจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายคอนกรีตผสมเสร็จให้กับบริษัทร่วมทุน และจากการให้เช่าที่ดินว่างเปล่าขณะเดียวกัน บริษัทฯ จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายผลิตภัณฑ์พรีคาสท์ให้แก่ลูกค้ารายอื่นๆด้วย
"เราเห็นสัญญาณการลงทุนในโครงการต่างๆ ของภาครัฐบาลและเอกชนมาอย่างต่อเนื่องตลอด 3 -5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะงานโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ยังมีแผนการลงทุนขนาดใหญ่จำนวนมาก ทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน และโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ทั้งแนวราบและแนวสูงเพื่อรองรับการขยายตัว จึงเป็นโอกาสในปี 64 ให้บริษัทฯ เข้าไปรับงานโครงการดังกล่าวเพิ่มขึ้น
แม้ปี 63 เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบในประเทศไทยและประเทศทั่วโลก ทำให้หลายๆ โครงการชะลอตัว อาจเป็นเพราะการเดินทางที่ไม่สะดวก สถานการณ์เศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย แต่มั่นใจว่า จะเร่งฟื้นตัวในปีนี้ ตามยุทธศาตร์ที่วางไว้ ดังนั้น STC เราจะเตรียมพร้อมรับโอกาส จากการขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปในปีที่ผ่านมา รวมทั้งค้นคว้า วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าของเราได้มากขึ้น จึงเป็นที่มาของการร่วมทุนในครั้งนี้ พร้อมทั้งตั้งเป้ารายได้ STC ปี 64 คาดเติบโต 10%" นายเอกชัย กล่าว