นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง เปิดเผยว่า กองทุนบัวหลวงเตรียมเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลธีมเมติกออพพอร์ทูนิตี้ หรือ B-GTO ระหว่างวันที่ 9-16 กุมภาพันธ์ 2564 ในราคาหน่วยลงทุนละ 10 บาท มูลค่าการซื้อขั้นต่ำ 500 บาท
กองทุนนี้ลงทุนในบริษัทที่คิดค้นหรือได้ประโยชน์จากพัฒนาการทางด้านนวัตกรรมของโลกและเป็นบริษัทที่มีความโดดเด่นในแต่ละอุตสาหกรรม มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว โดยการลงทุนจะครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมทั่วโลก จึงช่วยเพิ่มโอกาสให้กับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนที่มีความสอดคล้องกับเมกะเทรนด์โลก ไม่ว่าจะเป็น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงทางด้านภูมิอากาศของโลก (Climate Change) การพัฒนาด้านการเชื่อมต่อสื่อสาร (Interconnectivity) และความก้าวหน้าทางด้านการแพทย์ เป็นต้น
"หลังไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด เราได้เห็นภาพบริษัทที่เร่งปรับตัวใช้นวัตกรรมมากขึ้น ขณะที่ประชากรทั่วโลกก็ตื่นตัวใช้สินค้าและบริการที่มีนวัตกรรมมากกว่าเดิม เช่น หันมาใช้อี-คอมเมิร์ซสั่งซื้อสินค้าและบริการพร้อมกับชำระเงินออนไลน์แทนเงินสด ใช้การตรวจรักษาออนไลน์แทนการไปโรงพยาบาล เป็นต้น เราได้เห็นว่า บริษัทที่ใช้นวัตกรรมมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจ เป็นบริษัทที่อยู่รอดในสภาวะการณ์เช่นนี้ และได้ประโยชน์ต่อไปอีกในระยะยาว ดังนั้น การลงทุนในบริษัทที่คิดค้นหรือได้ประโยชน์จากนวัตกรรม จึงมีความน่าสนใจ เป็นโอกาสในลงทุนเพื่อได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว" นายพีรพงศ์ กล่าว
สำหรับ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลธีมเมติกออพพอร์ทูนิตี้ หรือ B-GTO เป็น Feeder Fund จะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก Wellington Global Innovation Fund ที่ได้รับการจัดอันดับเป็นกองทุน 5 ดาวจาก Morningstar โดยกองทุนนี้บริหารจัดการโดย Wellington Management ซึ่งเป็นบริษัทจัดการลงทุนชั้นนำของโลกที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา บริหารสินทรัพย์มากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ กองทุนนี้ได้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 โดย ณ ปัจจุบันมีการลงทุนในบริษัทที่คิดค้นหรือได้ประโยชน์จากนวัตกรรมประมาณ 40-70 บริษัท จากข้อมูล ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 กองทุนนี้ทำผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี ได้ 50% ดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่เป็น MSCI All Country World Index ที่ 15%
ตัวอย่างหุ้นที่สอดคล้องกับแนวคิดของกองทุนหลัก เช่น 1) Wuxi Biologics บริษัทยาสัญชาติจีนที่ใช้นวัตกรรมชีวเภสัชภัณฑ์ชั้นนำของโลก 2) Match Group เจ้าของแพลตฟอร์มหาคู่ชั้นนำ Tinder 3) Mercado Libre ผู้นำอี-คอมเมิร์ซรายใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา 4) Nike ผู้ผลิตอุปกรณ์กีฬาที่ประสบความสำเร็จด้านการพัฒนาอี-คอมเมิร์ซและปรับตัวได้อย่างรวดเร็วเมื่อมีวิกฤติโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา และ 5) Wingstop Restaurants ร้านอาหารปีกไก่ทอดอเมริกันที่ใช้นวัตกรรมรับออเดอร์ ให้บริการและวิเคราะห์ลูกค้า เป็นต้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า หากนักลงทุนมองหาโอกาสการลงทุนในบริษัทที่คิดค้น หรือได้ประโยชน์จากนวัตกรรมและสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศ รวมทั้งรับความเสี่ยงจากความผันผวนในหุ้น อัตราแลกเปลี่ยน และปัจจัยเสี่ยงอื่นที่เกิดจากการลงทุนในต่างประเทศได้ ทั้งยังลงทุนได้ระยะยาว 3-5 ปีขึ้นไป ก็สามารถจัดสรรเงินมาลงทุนใน B-GTO ได้