ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงซื้อหุ้นเหมือง-น้ำมัน ดันฟุตซี่ปิดบวก 42.6 จุด

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเพิ่มขึ้น 42.6 จุดเมื่อคืนนี้ (6 ก.ย.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ เนื่องจากข่าวควบรวมกิจการและเข้าซื้อหุ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มบริษัทน้ำมันทะยานขึ้นตามราคาน้ำมัน หลังจากเกิดกระแสความตึงเครียดทางการเมืองในหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายค่อนข้างผันผวนหลังจากธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางยุโรปประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ย 
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 42.6 จุด หรือ 0.68% ปิดที่ 6,313.3 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 6,217.5-6,327.3 จุด 
          หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง หลังจากมีข่าวว่าบริษัทบีเอชพี บิลลิตัน อาจจะรวมตัวกับบริษัทซีวีอาร์ดีของบราซิลเพื่อข้าซื้อกิจการบริษัทรีโอตินโต โดยหุ้นรีโอตินโตพุ่งขึ้น 191 เพนซ์ ปิดที่ 3,716 เพนซ์ หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน บวกขึ้น 56 เพนซ์ ปิดที่ 1,473 เพนซ์ 
          ส่วนหุ้นกลุ่มบริษัทน้ำมันทะยานขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเหนือระดับ 76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากมีข่าวว่าสถานทูตสหรัฐประจำไนจีเรียออกแถลงการณ์เตือนว่า ธุรกิจของสหรัฐและชาติตะวันตกอื่นๆในไนจีเรียกำลังเผชิญความเสี่ยงจากการถูกโจมตีของขบวนการก่อการร้าย รวมทั้งข่าวที่ว่ากองกำลังทางอากาศของซีเรียได้ปฏิบัติการโจมตีเครื่องบินของอิสราเอลเมื่อวานนี้ โดยกล่าวหาว่าอิสราเอลละเมิดน่าฟ้าของซีเรีย ซึ่งนำไปสู่ความตึงเครียดในภูมิภาค
          ทั้งนี้ หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 38 เพนซ์ ปิดที่ 1,996 เพนซ์ หุ้นบีจี กรุ๊ป บวกขึ้น 38 เพนซ์ ปิดที่ 824.5 เพนซ์ และหุ้นบีพีเพิ่มขึ้น 6 เพนซ์ ปิดที่ 565.5 เพนซ์
          อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงเนื่องจากความกังวลเรื่องภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อหดตัวและความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ โดยหุ้นนนอร์ทเธิร์น ร็อคร่วงลง 3% หุ้นบาร์เคลย์สดิ่งลง 2% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ รูดลง 1.6% และหุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดดิ่งลง 2.1%