นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีเอ็มโอ (CMO) ผู้นำธุรกิจสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรแห่งอาเซียน ครอบคลุมธุรกิจด้านอีเวนต์,ด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ และธุรกิจไลฟ์สไตล์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ที่แพร่ระบาดตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค.63 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก ซึ่งบริษัทจึงได้ปรับกลยุทธ์การตลาดทันที โดย เปิดสตูดิโอสตรีมมิ่งครบวงจร ทั้งหมด 3 สตูดิโอ มีขนาดที่หลากหลาย ครบครันด้วยระบบภาพแสงเสียง ตลอดจนระบบการ Live Streaming รองรับการจัดงาน ดิจิทัล อีเวนต์ (Digital Event) ทุกประเภท โดยเริ่มเปิดให้บริการในเดือน พ.ค.63
ปัจจุบันบริษัทฯ มียอดจัดงาน ดิจิทัล อีเวนต์ (Digital Event) กว่า 80 งาน โดยมีแบรนด์ต่างๆ ในหลายอุตสาหกรรมเข้ามาเช่าพื้นที่จัดงาน และให้บริษัทฯ ดูแลการจัดงานให้ทั้งระบบ ซึ่งจัดงานครอบคลุมทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น งานเปิดตัวสินค้า, งานประชุมกับตัวแทนจำหน่าย, งานประชุมวิชาการนานาชาติ, งานสัมมนา, งานในกลุ่มธุรกิจบันเทิงและคอนเสิร์ต ตลอดจนงาน Fan Meeting ระหว่างศิลปินกับแฟนคลับ เป็นต้น
"จากจำนวนการจัดงาน ดิจิทัล อีเวนต์ (Digital Event) ที่เพิ่มขึ้น ถือว่าประสบความสำเร็จ และตอกย้ำความเป็นผู้นำ ซึ่ง Digital Event ไม่ใช่เพียงแค่การจัดงานแล้ว Live Streaming ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาใช้ในการจัดงาน ไม่ว่าจะเป็น การใช้เทคนิค Augmented Reality (AR), การออกแบบคอมพิวเตอร์กราฟฟิค (CG), การทำ Interactive Media, ระบบการลงทะเบียนออนไลน์, ระบบ Lucky Draw, ระบบซื้อสินค้า ตลอดจนการทำ Virtual Museum Exhibition "นายเสริมคุณ กล่าว
ทั้งนี้ งาน Digital Event ได้รับความนิยมมากขึ้น ในทุกอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนงานจะเป็น ดิจิทัล อีเวนต์ (Digital Event) และ ไฮบริด อีเวนต์ (Hybrid Event) คือ การจัดอีเวนต์ในสถานที่จัดงานต่างๆ ควบคู่ไปกับการทำออนไลน์ โดยมีการ Live Streaming ผ่านแอฟพลิเคชั่นต่างๆ
นายเสริมคุณ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ ปี 64 จากงาน Digital Event อยู่ที่ 75 ล้านบาท ซึ่งจากวิกฤติโควิดทำให้เป็นจุดเปลี่ยนของธุรกิจอีเวนต์ มีการต่อยอดพัฒนารูปแบบไปเป็น ดิจิทัล อีเวนต์ (Digital Event) และไฮบริด อีเวนต์ (Hybrid Event) ซึ่งสามารถสร้างสีสันและความสนุกได้ไม่แพ้รูปแบบ On Ground นำไปสู่การปรับตัวของรูปแบบการจัดกิจกรรมทางการตลาดของแบรนด์ต่างๆ รวมไปถึงนักการตลาดแต่ละบริษัท จะเริ่มปรับแผนการตลาดให้เข้ากับยุคสมัย มีความยืดหยุ่นหันมาทำ Digital Event และ Hybrid Event มากขึ้น
ทิศทางของ CMO ในปีนี้จะเร่งดำเนินธุรกิจ ปรับกลยุทธ์ต่างๆ มาฟื้นฟูกิจการ ลุยงาน Digital Event รวมไปถึงการร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจ และลงทุนจัดหาอุปกรณ์ครบครันด้วยเทคโนโลยี มีมาตรฐาน ตลอดจนคัดสรรบุคคลากรผู้เชี่ยวชาญงานออนไลน์เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ Digital Event