(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: แรงซื้อแข็งแกร่ง หนุนดาวโจนส์ปิดพุ่ง 133.23 จุด

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 130 จุดเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นบริษัทคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยกู้จำนองรายใหญ่สุดของสหรัฐ และหุ้นเจนเนรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) หลังจากมีข่าวว่าจีเอ็มสามารถทำข้อตกลงกับพนักงานในเรื่องต้นทุนด้านสุขภาพได้
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 133.23 จุด หรือ 1% ปิดที่ 13,424.88 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 บวกขึ้น 12.39 จุด หรือ 0.84% ปิดที่ 1,483.95 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 8.99 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 2,601.06 จุด
          ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.27 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 19 ต่อ 13 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้น Nasdaq มีอยู่ประมาณ 1.69 พันล้านหุ้น 
          นายเคนท์ ครอฟท์ นักวิเคราะห์จากบริษัทครอฟท์ ลีโอมินสเตอร์ อินเวสท์เมนท์กล่าวว่า "นักลงทุนส่งคำสั่งซื้อเข้าหนุนหุ้นคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียลอย่างหนาแน่น หลังจากมีข่าวว่าคันทรีไวด์สามารถระดมทุนเพิ่มเติมได้อีก 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อของสหรัฐไม่ได้ย่ำแย่เหมือนกับที่หลายฝ่ายประเมินไว้ในเบื้องต้น" 
          ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกจากราคาพันธบัตรที่ร่วงลงอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้นักลงทุนจำนวนมากปลีกตัวออกจากตลาดพันธบัตรที่เคยมองว่าเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัย และหันมาลงทุนในตลาดหุ้นอย่างคึกคัก
          นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดยังคงได้รับอิทธิพลในด้านบวกจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.นี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง และหลังจากเกิดวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อ
          ทั้งนี้ หุ้นคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล พุ่งขึ้น 14% หลังจากมีข่าวว่าบริษัทสามารถระดมทุนได้ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ และบริษัทได้ขายหุ้นมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ให้กับแบงค์ ออฟ อเมริกา เพื่อพยุงกิจการของบริษัทให้ยังดำเนินต่อไปได้ 
          ข่าวความเคลื่อนไหวของคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล ช่วยหนุนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มการเงินปรับฐานขึ้นด้วย โดยหุ้นแบร์สเติร์นส หุ้นเมอร์ริล ลินช์ และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้นประมาณ 3% ส่วนหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ และหุ้นเลห์แมน บราเธอร์ส ทะยานขึ้นกว่า 3% 
          หุ้นจีเอ็มพุ่งขึ้น 10.1% หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า เจ้าหน้าที่สหภาพแรงงานและจีเอ็มสามารถตกลงกันได้เรื่องการจัดตั้งกองทุนทรัสต์เพื่อสวัสดิการด้านสุขภาพ ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยให้จีเอ็มประหยัดต้นทุนได้หลายพันล้านดอลลาร์