ADVANC เป้าปี 64 รายได้-กำไร EBITDA โตตัวเดียวระดับต่ำ,ลงทุน 2.5-3 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 8, 2021 18:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส เปิดเผยคาดการณ์ปี 64 มีรายได้จากการให้บริการหลัก เติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับต่ำ กำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับต่ำ ส่วนงบประมาณการลงทุน (ไม่รวมคลื่นความถี่) จำนวน 25,000 -30,000 ล้านบาท

บริษัทมองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 64 ยังคงมีความไม่แน่นอนจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ที่เริ่มในช่วงปลายปี 63 ในขณะที่ภาคธุรกิจยังคงไม่ฟื้นตัวสู่ระดับเดิมในช่วงก่อนการระบาด โดยคาดว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังมีแนวโน้มที่อ่อนตัวจากผลกระทบของการระบาดที่ยังคงยืดเยื้อและส่งผลต่อระดับรายได้ของทั้งภาคธุรกิจและการจ้างงานที่ลดลง รวมถึงระดับหนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและการส่งออกซึ่งเป็นกลไลขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยยังขึ้นอยู่กับการเข้าถึงวัคซีนของทั้งคนไทยและในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยกดดันต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคมและการเติบโตของรายได้จากการให้บริการหลักของบริษัท

อีกทั้งยังคาดการณ์ว่าระดับการแข่งขันในตลาดยังคงอยู่ในระดับสูงด้วยการใช้กลยุทธ์ทางด้านราคาเพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่มองหาสินค้าและบริการที่มีความคุ้มค่าเพื่อชดเชยกำลังซื้อที่อ่อนลง เอไอเอสจึงมุ่งเน้นในการสร้างความแตกต่างด้วยสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละกลุ่ม อีกทั้งยังยกระดับประสิทธิภาพการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า รวมทั้งการนำกระบวนการดิจิทัลมาปรับใช้ทั้งสำหรับกระบวนการภายในและสร้างช่องทางออนไลน์ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในระดับที่เหมาะสมและขยายการเติบโตในธุรกิจใหม่

การฟื้นตัวของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ เอไอเอส มุ่งมั่นในการเป็นผู้นำบริการ 5G โดยเน้นสร้างประสบการณ์การใช้งาน 5G ที่เหนือกว่าเพื่อจับตลาดกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเชิงรายได้ อีกทั้งยังมุ่งเสริมความแข็งแกร่งของโปรแกรมการรักษาฐานลูกค้าและใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อรักษาฐานรายได้ในภาวะที่มีการแข่งขันด้านราคาที่สูง

พร้อมมทั้ง คงการเติบโตของธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านในระดับที่สูงกว่าอุตสาหกรรม ด้วยกระแสความต้องการอินเทอร์เน็ตบ้านที่เพิ่มสูงขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 เอไอเอสไฟเบอร์วางแผนในการขยายความครอบคลุมของบริการในพื้นที่รอบนอกของเมืองหลักที่มีแนวโน้มการเติบโตที่สูง โดยอาศัยการต่อยอดจากฐานลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่และตั้งเป้าหมายลูกค้าจำนวน 1.6 ล้านคนภายในปี 64 ทั้งนี้ด้วยการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงท่ามกลางกำลังซื้อที่อ่อนตัว เอไอเอสไฟเบอร์จึงมุ่งเน้นนำเสนอบริการเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ด้วยแพ็กเกจแบบรวมบริการที่หลากหลายเพื่อเพิ่มรายได้ต่อครัวเรือน (ARPH: Average Revenue per Household) และเพื่อสร้างระดับราคาที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด

คาดการณ์อัตราการเติบโตของธุรกิจบริการลูกค้าองค์กรในระดับสองหลัก ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นของภาคธุรกิจต่างๆ ที่เร่งปรับเปลี่ยนการดำเนินงานด้วยกระบวนการดิจิทัลเพื่อเข้าสู่ New normal เอไอเอสจึงคาดว่าธุรกิจลูกค้าองค์กรจะสามารถเติบโตได้สูงด้วยความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้าน ICT อีกทั้งด้วยโซลูชั่น 5G ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่และเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ

เอไอเอสคงแผนการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมศักยภาพของความเป็นผู้นำในระยะยาว โดยวางงบการลงทุนสำหรับปี 64 ประมาณ 25,000-30,000 ล้านบาทซึ่งมุ่งเน้นการสร้างโครงข่ายเพื่อความเป็นผู้นำในบริการ 5G ยกระดับคุณภาพบริการ 4G ขยายบริการธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน และลงทุนในแพลทฟอร์มสำหรับธุรกิจดิจิทัลและบริการลูกค้าองค์กร โดยวางแผนขยายโครงข่าย 5G บนคลื่นความถี่ทั้งย่านต่ำและกลาง เพื่อให้บริการด้วยคุณภาพที่เหนือกว่าผู้ให้บริการรายอื่น โดยเน้นในพื้นที่ซึ่งมีอัตราการใช้งานมือถือ 5G ที่สูง

ทั้งนี้ เอไอเอสมุ่งเน้นคุณภาพของบริการ 5G เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า ประกอบกับการขยายโครงข่ายที่ครอบคลุมตามการเติบโตของการใช้งานมือถือ 5G

ขณะเดียวกัน คงความสามารถในการทำกำไรโดยเน้นการบริหารจดัการต้นทุนเพื่อรักษากระแสเงินสดจากการดำเนินงานและความสามารถในการทำกำไรภายใต้ความไม่แน่นอนในปี 64 เอไอเอสวางแผนในการบริหารต้นทุนโดยให้ความสำคัญใน 3 ด้าน ได้แก่ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การยกระดับประสิทธิภาพ และการวางแผนจัดลำดับโครงการให้เหมาะสม โดยจะมีการดำเนินการอย่าง

ต่อเนื่องในการปรับลดต้นทุนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น การปรับกระบวนการปฏิบัติงานในรูปแบบอัตโนมัติ(Automation) การปรับช่องทางจำหน่ายและบริการผ่านทางออนไลน์ การปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Transformation) เพื่อให้การพัฒนาสินค้าและบริการสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วและปรับกระบวนการทำงานภายในที่คล่องตัว รวมถึงการปรับปรุงระบบบริหารจัดการโครงข่ายซึ่งจะช่วยให้การลงทุนในโครงข่ายมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้คาดการณ์การเติบโตของ EBITDA ปี 64 ในอัตราเลขตัวเดียวระดับต่ำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ