นายอารักษ์ สุธีวงศ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยว่า ธนาคารยังมองโอกาสในการขยายตัวของสินเชื่อได้ในปีนี้ที่ตั้งเป้าเติบโต 3-5% โดยจะเน้นการเติบโตของสินเชื่อกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพสูงเป็นหลัก และยังคงระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอนจากสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวกลับมาชัดเจน และมีความเสี่ยงอาจจะเติบโตไม่ถึงคาดการณ์ที่ 2.2%
อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงเน้นไปที่การบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายเป็นหลัก เพื่อทำให้ธนาคารสามารถรักษาผลตอบแทนได้ในระดับที่ดี โดยเน้นไปที่การนำระบบดิจิทัลมาใช้ในการให้บริการและการดำเนินธุรกิจ โดยจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานภายในของธนาคารได้ รวมไปถึงการที่สามารถพัฒนาบริการใหม่ๆ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งบริการด้านการเงิน ประกัน และการลงทุน
ขณะที่ทิศทางของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปี 64 คาดว่าสัดส่วนจะยังเพิ่มขึ้นจากปีก่อนมาที่ 4-4.5% ของสินเชื่อรวม จากปีก่อนอยู่ที่ 3.68% โดยยังมีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง และโควิด-19 ระลอกใหม่ที่กระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้าบางราย ซึ่งธนาคารยังคงช่วยเหลือลูกค้ามาต่อเนื่อง และมีมาตรการพักชำระหนี้รอบใหม่เข้ามาช่วยเหลือลูกค้าอีก แต่มองว่าจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ NPL ปรับเพิ่มขึ้นได้
ส่วนแนวโน้มการตั้งสำรองฯในปี 64 คาดว่าจะลดลงจากปีก่อนที่ตั้งมาแล้วในระดับสูง โดยที่มีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) สูงกว่า 130% ส่วนการบริการจัดการ NPL นั้นธนาคารจะยังไม่เร่งการขายออกไป เนื่องจากแนวโน้มของ NPL ในระบบที่จะนำออกมาขายในปีนี้คาดว่าจะยังมีปริมาณสูงมาก ทำให้มูลค่าในการขาย NPL ถูกกดดัน ซึ่ง SCB ยังมีความสามารถในการบริหารจัดการ NPL ได้เอง ทำให้ยังไม่จำเป็นที่จะต้องเร่งการขาย NPL ออกไป