นายอมิต ปรากาซ กรรมการผู้จัดการ บมจ.โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) (PTL) กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 3 ของรอบปีบัญชี 63/64 (ต.ค.-ธ.ค.63) กำไรสุทธิ 708 ล้านบาท พุ่งสูง 45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้ 3,752 ล้านบาท เติบโต 15% จากความต้องการฟิล์ม PET เพื่อนำไปใช้ในบรรจุภัณฑ์อาหารและไม่ใช่อาหารเพิ่มสูงขึ้น จากปัจจัยด้านสุขภาพและอนามัย รวมถึงการใช้งานในอุตสาหกรรมอื่นๆ
PTL เป็นส่วนหนึ่งของ Polyplex Corporation ซึ่งเป็นผู้ผลิตแผ่นฟิล์ม PET ชนิดบางรายใหญ่อันดับ 6 ของโลก และเป็นกลุ่มผู้ผลิตฟิล์ม PET ชนิดบาง รายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากฐานการผลิตที่ทันสมัยในประเทศไทยและอินโดนีเซีย ปัจจุบัน ฐานการผลิตแผ่นฟิล์ม PET และฟิล์มชนิดอื่นๆ ในอินเดีย ตุรกี สหรัฐอเมริกา และอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติมในสหรัฐอเมริกาและอินโดนีเซีย
"อุตสาหกรรมนี้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 5-7% จากความต้องการใช้แผ่นฟิล์ม PET ชนิดบาง ที่ส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ในบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาหาร และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและอนามัย" นายอมิต กล่าว
การเติบโตของอุตสาหกรรมนี้มีแรงเกื้อหนุนจากความตระหนักของผู้บริโภคทั่วโลก ในด้านสุขภาพและสุขอนามัยที่ดีขึ้น โดยคาดว่าอุปสงค์ของฟิล์ม PET ชนิดบางยังคงแข็งแกร่งในไตรมาสแรกของปี 64 ตลอดไปถึงช่วงที่เหลือของปีนี้ เช่นเดียวกับกลุ่มฟิล์มชนิดหนาที่นำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม กำลังมีการฟื้นตัวในระยะปานกลาง และจะขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งในระยะยาว จากปัจจัยการเติบโตอย่างรวดเร็วของกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้า
แม้บริษัทฯ จะมีการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า แต่คาดว่าตลาดจะดูดซับอุปทานที่เติบโตได้ดี อย่างไรก็ตาม อาจจะมีผลต่อการทำกำไรในระยะสั้นที่น้อยมากในช่วงที่เริ่มต้นสายการผลิตใหม่