โบรกเกอร์ต่างเชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ลุ้นกำไรทำสถิติสูงใหม่ได้ต่อเนื่องในไตรมาส 1/64 และยังเติบโตต่อเนื่องได้ในปี 64 จากการปรับกลยุทธ์หันกลับมาเน้นการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์มากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันรุนแรงในตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และเป็นโอกาสของบริษัทในการขยายตลาด จากความต้องการใช้สินเชื่อเช่าซื้อจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นในตลาดต่างจังหวัด
จากปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้สินเชื่อของบริษัทกลับมาฟื้นขึ้นมาเติบโต 20% ได้ในปี 64 และคุณภาพหนี้ที่บริษัทสามารถบริหารจัดการได้ดี มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ต่ำเพียง 1-2% นอกจากนี้ ยังควบคุมต้นทุนได้ดี โดยเฉพาะต้นทุนทางการเงิน ทำให้บริษัทยังคงได้รับผลตอบแทนจากการปล่อยกู้ในระดับที่สูง และทำให้กำไรเติบโตขึ้นได้ต่อเนื่อง
หุ้น MTC ปิดช่วงเช้าที่ 68.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท (+1.87% ขณะที่ดัชนี SET ปิดเช้าพุ่ง 11.81 จุด
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
เคทีบีเอสที ซื้อ 80
กสิกรไทย ซื้อ 79
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ซื้อ 77
ธนชาต ซื้อ 75
โนมูระ พัฒนสิน ซื้อ 75
ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ซื้อ 74
ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) ซื้อ 73
เอเซีย พลัส ซื้อ 70
ทิสโก้ ซื้อ 70
นายเอนกพงศ์ พุทธาภิบาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส มองโอกาสที่ผลงานของ MTC ในช่วงไตรมาส 1/64 จะทำกำไรสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่องจากไตรมาส 4/63 ซึ่งคาดว่าจะทำได้ 1.4 พันล้านบาท จากการปรับกลยุทธ์ของบริษัทที่ได้หันกลับมารุกการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์มากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันรุนแรงในกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ทั้งในกลุ่มผู้เล่นที่เป็นธนาคารพาณิชย์และกลุ่มลีสซิ่ง
การปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยายนต์ยังมีอัตราดอกเบี้ยที่ดีราว 24% ซึ่งเป็นอัตราต่ำกว่าตลาดที่อยู่ในระดับ 35% จึงดึงดูดลูกค้าเข้ามาสนใจได้มากขึ้น และบริษัทยังได้รับผลตอบแทนที่ดี อีกทั้งยังมองเห็นถึงความต้องการซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในต่างจังหวัด เป็นโอกาสของบริษัทในการรุกขยายกลุ่มสินเชื่อดังกล่าว
ภาพรวม MTC ยังมีความน่าสนใจในประเด็นด้านการเติบโตของผลงานในปี 64 คาดว่าจะเห็นกำไรเติบโตได้เกือบ 17% จากปีก่อน และมองแนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อในปีนี้กลับมาเติบโตได้ 20% จากปีก่อนพลาดเป้าหมาย รวมถึงคุณภาพหนี้ที่บริษัทสามารถบริหารจัดการได้ดีมี NPL ที่ต่ำเพียง 1-2%
ด้านนายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโส นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในปี 64 จะยังเห็นการเติบโตผลงานของบริษัทเติบโตขึ้นได้ จากการเติบโตของสินเชื่อที่คาดว่าในปีนี้จะมีโอกาสเติบโตขึ้น 20% จากปีก่อน หลังจากที่ปีก่อนคาดว่าบริษัทจะทำได้พลาด 20% มาที่ 15%
ปัจจัยหนุนการขยายตัวของสินเชื่อในปี 64 ให้กลับมาฟื้นตัวขึ้นคาดว่าจะมาจากการปรับกลยุทธ์หันมารุกสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์มากขึ้น จากโอกาสของความต้องการใช้สินเชื่อเช่าซื้อเพื่อซื้อรถจักรยานยนต์กลับมาเพิ่มขึ้นในตลาดต่างจังหวัด และการแข่งขันในตลาดไม่รุนแรงมาก เมื่อเทียบกับสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่มีการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้เล่นในกลุ่มลีสซิ่งและธนาคารต่าง ๆ ที่เข้ามาในตลาดมากขึ้น
นอกจากนี้ MTC ยังควบคุมต้นทุนได้อย่างดี โดยเฉพาะต้นทุนทางการเงิน ทำให้บริษัทยังคงได้รับผลตอบแทนจากการปล่อยกู้ในระดับสูง และทำให้บริษัทยังสามารถมีกำไรเติบโตขึ้นได้ต่อเนื่อง คาดว่าแนวโน้มของกำไรในไตรมาส 1/64 จะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 4/63 คาดว่าจะมีกำไรเกือบ 1.4 พันล้านบาท และทำให้มีการปรับประมาณกำไรปี 64 เพิ่มขึ้นมาเป็นเติบโต 16% จากเดิมที่ 14%
ส่วนนายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการ และหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มกำไรของ MTC ในปี 64 จะยังคงเติบโตขึ้นจากปีก่อน 16% ซึ่งมาจากการขยายตัวของสินเชื่อที่คาดว่าจะกลับฟื้นตัวขึ้นและเติบโตได้ 17-20% จากการกลับมารุกตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์มากขึ้น หลังจากเห็นโอกาสที่ยอดขายรถจักรยานยนต์กลับมาดีขึ้น ทำให้ความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อกลับมาเพิ่มขึ้นตาม
ขณะที่การขยายสาขาของบริษัทในปี 64 อีก 600 สาขา ยังเป็นปัจจัยที่ช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงพื้นที่ในต่างจังหวัดได้มากขึ้น และทำให้ลูกค้าเข้ามาขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น พร้อมกับการที่บริษัทสามารถให้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าตลาดได้ จากการบริหารต้นทุนทางการเงินที่ดี ทำให้ดึงดูดลูกค้าจากผู้ประกอบการรายอื่นเข้ามาได้ ทำให้พอร์ตสินเชื่อของบริษัทเติบโตขึ้นได้
ทิศทางของผลงานไตรมาส 1/64 มีโอกาสเติบโตขึ้นได้ต่อเนื่องจากไตรมาส 4/63 จากการใช้สินเชื่อเช่าซื้อจักรยานยนต์ที่เติบโตสูงขึ้น ทำให้การปล่อยสินเชื่อเร่งตัวขึ้นในช่วงต้นปีต่อเนื่องมาจากปลายปีก่อน กำไรของบริษัทในไตรมาส 1/64 ยังมีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ จากไตรมาส 4/63 คาดว่าทำได้ 1.4 พันล้านบาท และ MTC ยังสามารถบริหารจัดการ NPL ได้อย่างดีทำให้มี NPL ในระดับต่ำไม่เกิน 2%