บมจ.ดุสิตธานี (DTC) ประกาศขยายธุรกิจโรงแรมในตะวันออกกลางอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ลงนามในสัญญากับ อัล ฟาเจอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศคูเวตเพื่อบริหาร "ดุสิตปริ๊นเซส มาห์บูลา คูเวต" โรงแรมในเครือแห่งแรกที่คูเวต คาดเปิดให้บริการในไตรมาสสุดท้ายของปี 66
นายลิม บุน กวี ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มดุสิตธานี เปิดเผยว่า กลุ่มดุสิตธานีมีโอกาสนำการบริการอย่างไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของดุสิตธานีมาสู่คูเวตเป็นครั้งแรก ซึ่งการเข้าบริหารโรงแรมในครั้งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของกลุ่มดุสิตธานีในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนที่รวมถึงการขยายธุรกิจในจุดหมายปลายทางสำคัญๆ ในตะวันออกกลาง โดยก่อนที่จะเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 รัฐบาลคูเวตมีความตั้งใจที่จะเพิ่มบทบาทการท่องเที่ยวให้มากขึ้น ทำให้เรามั่นใจว่าเมื่อการท่องเที่ยวกลับมาสู่สภาวะปกติอีกครั้ง คูเวตจะสามารถเติบโตอย่างรวดเร็วในฐานะจุดหมายปลายทางสำหรับทั้งธุรกิจและการพักผ่อนอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ โรงแรมดุสิตปริ๊นเซส มาห์บูลา คูเวต มีกำหนดเปิดให้บริการในไตรมาส 4/66 ซึ่งกลุ่มดุสิตธานีพร้อมที่จะนำโรงแรมแห่งนี้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จด้านการท่องเที่ยวของคูเวต
โรงแรมดุสิตปริ๊นเซส มาห์บูลา คูเวต เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในเขตมาห์บูลา ซึ่งเป็นพื้นที่ชายฝั่งเชิงอุตสาหกรรมและการค้ามีการเดินทางที่สะดวกโดยขับรถยนต์เพียงแค่ 25 นาทีจากใจกลางเมืองและสนามบิน โรงแรมแห่งนี้มีที่ตั้งที่โดดเด่นสามารถมองเห็นวิวอ่าวอาหรับที่สวยงามทางตอนใต้ อีกทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่ง เช่น อัลคูต์มอลล์ ซึ่งเป็นแหล่งค้าปลีกและพักผ่อนริมน้ำที่ใหญ่ที่สุดของคูเวตและคูเวตเมจิก ห้างสรรพสินค้าริมชายหาดขนาดใหญ่ที่มีสวนสนุกในร่ม
ภายในโรงแรมประกอบด้วย ห้องพัก 180 ห้อง และเซอร์วิสอพาทเม้นท์ 70 ห้อง เหมาะสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่ต้องการพักระยะยาว มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้องอาหาร สระว่ายน้ำ ฟิตเนสขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์ที่ทันสมัย สปา ห้องจัดเลี้ยงและห้องประชุมที่รองรับได้ มากถึง 350 คน
ด้านนายเทเลบ ฮุสเซน เอลิ จาร์รัค ประธานคณะกรรมการ บริษัท อัล ฟาเจอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง กล่าวว่า พันธกิจของบริษัทเรา คือ การมีส่วนร่วมในการพัฒนาคูเวตอย่างยั่งยืนผ่านโครงการที่มีคุณภาพ คุ้มค่า และมีความหลากหลายซึ่งการเปิดตัวของ ดุสิตปริ๊นเซส มาห์บูลา คูเวต จะช่วยส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับชุมชนมาห์บูลาโดยรวม โดยโรงแรมแห่งนี้ได้รับการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างการต้อนรับอย่างไทยของกลุ่มดุสิตธานีกับขนบธรรมเนียมและประเพณีการต้อนรับในท้องถิ่นทำให้เราเชื่อมั่นว่าจะมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับลูกค้าที่มาเยือนอย่างแน่นอน
ปัจจุบัน กลุ่มดุสิตธานี บริหารโรงแรม รีสอร์ทและวิลล่าหรู รวม 340 แห่ง ภายใต้ 6 แบรนด์ ใน 15 ประเทศ โดยกลุ่มดุสิตธานีบริหารโรงแรมในตะวันออกกลางรวม 7 แห่ง และคาดการณ์ว่าจะเปิดโรงแรมในภูมิภาคนี้เพิ่มอีก 2 แห่งภายในปีนี้อีกด้วย