บริษัท โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป จำกัด (GTG) เปิดตัวแม่พันธุ์กัญชง RAKSA อย่างเป็นทางการ หลังจากได้ทำการศึกษาวิจัยหาแม่พันธุ์กัญชงอย่างถูกต้องตามกฏหมาย และร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (CRRU) ตั้งแต่ปี 62 เพื่อสร้างศูนย์วิจัยเพื่อศึกษาและพัฒนาสายพันธุ์จนประสบความสำเร็จ โดยอยู่ระหว่างรอการอนุญาตให้ดำเนินการในเชิงพาณิชย์ พร้อมกับเตรียมแต่งตัวรอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย
ทั้งนี้ GTG ยื่นจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเพื่อแปรสภาพจากบริษัทจำกัดสู่บริษัทมหาชนจำกัด เพื่อให้องค์กรมีความพร้อมรองรับการทำงานระดับประเทศและระหว่างประเทศ โดยคาดว่าจะพร้อมใช้ชื่อ บมจ.โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป ภายในช่วงเดือน มี.ค.64 นี้
นายกฤษณ์ ธีรเกาศัลย์ หนึ่งในผู้บริหาร GTG เปิดเผยว่า บริษัทร่วมกับ CRRU สร้างศูนย์วิจัยศึกษาและพัฒนาสายพันธุ์กัญชา-กัญชง โดยควบคุมสภาพน้ำ สารอาหาร และอากาศ ให้มั่นใจว่าจะได้ต้นที่มีคุณภาพสูง ซึ่งทำการศึกษาและวิจัยแม่พันธุ์ที่มีความเหมาะสมกับสภาพอากาศในประเทศไทยกว่า 12 สายพันธ์ จนประสบความสำเร็จในการพัฒนาแม่พันธุ์ที่มีสาร CBD ในดอกแห้งเฉลี่ยทั้งต้นได้ถึง 15.8% ถือว่าสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก จากค่าเฉลี่ยในต่างประเทศอยู่ที่ราว 10% ขณะที่มีปริมาณ THC ต่ำกว่า 1% ซึ่งเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในเอเชีย นอกจากนี้ GTG ได้มีการศึกษาทดลองนำ CBD เข้าไปใช้ผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆแล้ว
ปัจจุบันประเทศไทยให้ไฟเขียวกับกฏหมายกัญชง ถือเป็นการเปิดประตูของอุตสาหกรรมใหม่ ซึ่ง GTG พร้อมเต็มที่กับการทำ business collaboration ร่วมกับธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อผลิต Precised CBD สกัดคุณภาพสูงให้กับผู้ประกอบการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งธุรกิจอาหาร และยา เครื่องดื่ม เครื่องสำอางค์ สปา ฯลฯ
"GTG มุ่งเน้นการขายต้นอ่อนและให้คำปรึกษาด้านการเพาะปลูก การทำฟาร์มให้ได้ผลผลิตสูง การจัดการอบรม และสัมมนาสำหรับนักธุรกิจและผู้ที่มีความสนใจ การทำเกษตรพันธสัญญา หรือ Contract Farming ซึ่งมีหลายองค์กรให้ความสนใจและเข้ามาศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง บริษัทพร้อมที่จะให้บริการเผยแพร่ทักษะและผลิตภัณฑ์ที่มี จากทีมงานที่มีประสบการณ์เพื่อขยายอุตสาหกรรม กัญชา-กัญชง ในประเทศไทย ให้ถูกต้อง (ตามข้อกฎหมาย) และถูกตัว (แม่พันธุ์) เพื่อการเพาะปลูกให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง"นายกฤษณ์ กล่าว
นอกจากกัญชงพันธุ์ RAKSA แล้ว GTG ร่วมกับ CRRU วิจัยแม่พันธุ์อื่น ๆ ที่ให้สาร CBD และ THC ในปริมาณที่แตกต่างกัน เพื่อรองรับกฏหมายการใช้ประโยชน์จากกัญชาในอนาคต
ปัจจุบันโครงการที่ดำเนินการระหว่าง CRRU-GTG อยู่ในช่วงดำเนินการขอใบอนุญาตส่งออกตัวอย่างพืชกัญชาและสารสกัดกัญชาไปยังต่างประเทศเพื่อใช้ศึกษาวิจัยทางการแพทย์ ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้เป็นกรณีศึกษาในขั้นตอนการดำเนินการและกระบวนการส่งออกพืชกัญชาไปต่างประเทศ อันเป็นหนทางในการพัฒนาสู่การส่งออกเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในอนาคต หากทำได้สำเร็จจะเป็นการช่วยยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมกัญชาไทย
อนึ่ง นายกฤษณ์ เป็นอดีต Investment Banker ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จหลายโครงการ เช่น การเข้าซื้อสินทรัพย์จากบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ในยุโรป และออสเตรเลีย อย่างเช่น Shell และการนำบริษัทน้ำมันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสโล (OSE) อีกทั้งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการทำดีล M&A ให้แก่บริษัทชั้นนำของประเทศ อย่าง บางจาก และ ปตท.
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา นายกฤษณ์ ได้มีโอกาสได้เข้าไปศึกษาธุรกิจใหม่อย่าง กัญชา-กัญชง (Cannabis) ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทั้งในด้านการแพทย์ อาหาร เครื่องสำอาง ฯลฯ ในแคนาดา สหรัฐอเมริกา อิสราเอล และสเปน ซึ่งสร้างธุรกิจและเม็ดเงินจำนวนมหาศาล ทำให้เล็งเห็นโอกาสในการสร้างตลาด Cannabis ในเอเชีย เนื่องจากประเทศไทยมีภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เหมาะสมในการเพาะปลูก
ดังนั้น จึงร่วมกับพาร์ทเนอร์อีก 2 ราย คือ นายนิสิต สิทธิอาษา และนาย Robert Stone ก่อตั้งบริษัท GTG เพื่อศึกษาวิจัยและพัฒนาเรื่องกัญชา-กัญชงอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยเป้าหมายที่ต้องการเป็นผู้นำธุรกิจ Cannabis ทางด้าน Genetic และ Cultivation ของเอเชีย จึงซื้อสายพันธุ์จากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการพัฒนาสายพันธุ์และการเพาะปลูก ผู้ก่อตั้งธนาคารเมล็ดพันธุ์ ?Resin Seed? และเป็นบุคคลแรกๆที่เริ่มใช้ CBD เพื่อการแพทย์ในยุโรป เพื่อทำให้ GTG เป็นบริษัทที่มีสายพันธุ์เป็นของตัวเอง
นอกจากนี้ GTG ยังมีนายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ เจ้าของนิตยสาร Fortune Magazine เป็นประธานบริษัท และนายพิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการ บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) มาเป็นที่ปรึกษาและกรรมการบริษัทด้วย