นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิปเม็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมานายอีลอน มัสก์ ก็เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน Bitcoin อยู่แล้ว ขณะที่นายอีลอน มัสก์ ก็ยังเป็นผู้ที่มีอิทธิพลบนโลกโซเชียล สังเกตุจากการพฤติกรรมการทวิตใน Twitter หลายครั้งค่อนข้างมีผลต่อการขึ้นลงของราคาสินทรัพย์บนกระดานซื้อขาย ซึ่งจากมุมมองส่วนตัวเชื่อว่านายอีลอน มัสก์ คงคาดการณ์ว่า Bitcoin จะเป็นสินทรัพย์ที่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคต และมีความมั่นคงมากกว่าการถือครองเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯไว้ในบัญชีบริษัท เพราะอาจมองว่ามูลค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯมีโอกาสถดถอยจากนโยบายการพิมพ์เงินออกมาเป็นจำนวนมาก
"ก่อนหน้านี้ก็มีบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯคือ MicroStrategy (MSTR) บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ประกาศเข้าซื้อ Bitcoin เป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ และเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา Michael J. Saylor ซีอีโอของ MicroStrategy ก็จัดสัมนาใหญ่ขึ้นมาชื่อว่า Bitcoin for Corporations เชิญบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งในสหรัฐฯเข้ามาร่วมฟังข้อมูลภายในงานนี้ด้วย เป็นจุดเริ่มต้นกระแสความเป็นไปได้ที่บริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯอาจกำลังสนใจซื้อ Bitcoin เป็นสินทรัพย์เข้าในบริษัทมากขึ้น"นายเอกลาภ กล่าว
นายเอกลาภ กล่าวต่อว่า แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการถกเถียงว่า Bitcoin คืออัตราแลกเปลี่ยนหรือเงินตราหรือไม่ แต่วันนี้คุณสมบัติของ Bitcoin กำลังกลายเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัวเองแล้ว สามารถบันทึกเข้าไปในบัญชีของบริษัทได้เช่นกัน ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า แอปเปิ้ล อิงค์ มีโอกาสเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้เล่นตลาดคริปโทเคอเรนซี ซึ่งตามความเห็นส่วนตัวมองว่ามีความเป็นไปได้เช่นกัน หากเป็นเช่นนั้นจริงคงต้องติดตามว่า แอปเปิ้ล อิงค์ จะนำไปต่อยอด Ecosystem ของบริษัทในรูปแบบใด
สำหรับกระแสการเดิมพันของผู้สนใจ Bitcoin ทั่วโลกเริ่มที่มีการประเมินว่าราคา Bitcoin จะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ 1 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมองว่ามีความเป็นไปได้ แต่คงไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด ดังนั้น หากวิเคราะห์ราคา Bitcoin ที่ระดับ 1 แสนดอลลาร์สหรัฐฯก็จะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 2.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับมูลค่าตลาดของทองคำทั่วโลกที่เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์สำคัญปัจจุบันอยู่ที่ 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เห็นว่ายังมี Upside อีกมาก จึงมีความเป็นไปได้ที่ราคา Bitcoin จะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ เพราะเป็นสินทรัพย์ที่โตขึ้นได้ตลอด
"ถ้าหากราคา Bitcoin ปรับฐาน ส่วนตัวมองเป็นสิ่งที่ดี เพราะสินทรัพย์ใดที่ราคาขึ้นตลอดไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าใดนัก ซึ่งตัวผมเองคงตอบไม่ได้ว่าราคาตรงจุดไหนที่เรียกว่าเป็นภาวะฟองสบู่ แต่ผมอยากใช้คำพูดที่นักเทรดใน Wall Street เคยบอกว่าหากคุณนั่งบนแท็กซี่แล้วคนขับแท็กซี่ชวนไปซื้อ Bitcoin เวลานั้นอาจเป็น Bubble เป็นสัญญาณขายออกมาได้แล้ว สะท้อนว่าวันนั้นจะมีจำนวนผู้ซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมากๆ และวันหนึ่งมีผู้ขายมากกว่าผู้ซื้อ มีของในมือกลับไม่มีคนซื้อแล้ว เมื่อไร้เงินซื้อก็จะเกิดการร่วงลงของราคาแหมือนโดมิโน กลไกแบบนี้เป็นเหมือนกันทุกสินทรัพย์ แต่เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเรากำลังอยู่ในฟองสบู่ แต่คนส่วนใหญ่จะรู้ก็ต่อเมื่อฟองสบู่นั้นแตกแล้ว"นายเอกลาภ กล่าว
สำหรับภาพรวมการดำเนินงานบริษัท ซิปเม็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ประเมินภาพรวมตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในเมืองไทยมีแนวโน้มเติบโตกระโดด ณ ปัจจุบันตัวเลขผู้เปิดบัญชีในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้นมาเป็นกว่า 5 แสนบัญชีเติบโตจากสิ้นปีก่อนที่มีเพียง 1.45 แสนบัญชี ทำให้ปี64 บริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่มฐานลูกค้าใหม่รวมเป็น 100,000 บัญชีจากปัจจุบันที่มีอยู่ 25,000 บัญชี
ซิปเม็กซ์ มีเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทฯ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลติด 1 ใน 3 ของเอเชีย และในปี 64 นักลงทุนรายย่อย โดยเฉพาะผู้ที่สนใจในการลงทุนยุคดิจิทัลจะนึกถึงซิปเม็กซ์เป็นแบรนด์แรก ๆ และเชื่อว่าการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนอย่างต่อเนื่องและการบูรณาการของสถาบันการเงินจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงอยากให้นักลงทุนที่เคยลงทุนในตลาดหุ้น หันมาสนใจและศึกษาตลาดเงินดิจิทัลมากขึ้น คาดหวังให้นักลงทุนหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาดจะเลือกซิปเม็กซ์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการลงทุน และเรียนรู้เทรนด์สินทรัพย์ดิจิทัลไปด้วยกัน
"นอกเหนือจาก Zipmex Tokens (ซิปเม็กซ์ โทเคน) หรือ ZMT ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่ผ่านมา ในปี 64 นี้เรายังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะออกมาเพื่อเป็นทางเลือกแก่นักลงทุนอีกมากมาย เพราะซิปเม็กซ์ ไม่ได้ให้บริการเพียงแค่การซื้อ ขายสินทรัพย์ดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มการสร้างความมั่งคั่งในเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย
รวมถึงโปรแกรมพิเศษสำหรับผู้ถือ ZMT ที่เรียกว่า ZipMember (ซิปเมมเบอร์) และ ZipCrew (ซิปครู)ด้วยสิทธิประโยชน์ด้านไลฟ์สไตล์ที่ยอดเยี่ยม เช่น มื้ออาหารที่ร้านอาหารที่ติดดาวมิชลิน, เทศกาลดนตรี / งานอีเวนต์, สินค้าลิมิเต็ด จากความร่วมมือกับแบรนด์ดีไซเนอร์ชื่อดัง ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์พิเศษสำหรับสมาชิกของเราเท่านั้น เพราะวิสัยทัศน์ของเรา คือการมุ่งมั่นพัฒนาที่จะมอบโอกาสทางการเงินและการลงทุนที่ดีกว่าให้แก่ผู้คนเพื่อการสร้างความมั่งคั่งผ่านโอกาสการลงทุนที่หลากหลาย"นายเอกลาภ กล่าว
https://youtu.be/ZaBup-Pmo-I