INTUCH กางแผน 5 ปี ขยายลงทุนต่อยอด 5G พร้อมมุ่ง VC Fund, Venture Builder

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 11, 2021 16:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายณรงค์พนธ์ บุญทรงไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริษัทร่วมทุนและพัฒนาธุรกิจ และหัวหน้าโครงการบริษัทร่วมทุนอินเว้นท์ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนการดำเนินงานในช่วง 5 ปี (ปี 64-68) ขยายขอบเขตการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี 5G มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ EdTech, Robotic, Health Tech, E-Commerce, Big Data, Smart Building, InsurTech เป็นต้น จากในอดีตที่เน้นลงทุนใน Digital Media, Enterprise, Digital Life, FinTech, E-commerce และ HealthTech เพื่อเร่งให้เกิดการให้บริการ 5G มากยิ่งขึ้น และยังช่วยสนับสนุนให้ INTUCH สามารถเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ 5G มากขึ้นด้วย

บริษัทยังได้เพิ่มการลงทุนผ่านกองทุนเวนเจอร์แคปปิตอล (Venture Capital Fund) เพื่อขยายโอกาสการลงทุนที่ครอบคลุมในหลายภูมิภาค และมุ่งหา deal flow ที่มีคุณภาพด้วยความเชี่ยวชาญจากผู้จัดตั้งกองทุนชั้นนำจากต่างประเทศ เกิดการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและความร่วมมือทางธุรกิจที่จะช่วยให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อนำมาสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ สอดคล้องกับเทคโนโลยี 5G และตอบโจทย์ทางธุรกิจ สามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆ ให้กับบริษัทในกลุ่มอินทัช

รวมถึงเพิ่มการลงทุนผ่าน Venture Builder ภายใต้โครงการ InVent Builder ช่วยสร้างและพัฒนาธุรกิจใหม่ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น (Early Stage) ที่ใช้เทคโนโลยีและบริการที่เกี่ยวข้องกับ 5G จนขยายการเติบโตได้อย่างยั่งยืน INTUCH จึงเห็นโอกาสในการทำ Venture Builder Program เพื่อสร้างระบบนิเวศสตาร์ทอัพของไทยให้แข็งแรงมากขึ้น ให้สตาร์ทอัพเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ ช่วยสร้างธุรกิจใหม่ๆ นอกเหนือจากเดิมที่มีการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ (New Business) หรือการผนึกความเชี่ยวชาญระหว่างกลุ่มอินทัชและพันธมิตรผ่าน JV / M&A เพื่อสร้างธุรกิจในอุตสาหกรรมอื่นที่เติบโต เน้นการใช้เทคโนโลยีตอบโจทย์ผู้ใช้งานในยุคดิจิทัล รวมถึงโครงการอินเว้นท์ (InVent) ที่มุ่งเน้นลงทุนในสตาร์ทอัพที่เกี่ยวข้องกับ 5G รวมทั้ง Emerging Technology เพื่อนำมาต่อยอดบริการต่างๆ ให้กับธุรกิจกลุ่มอินทัช

สำหรับแผนการลงทุนผ่านกองทุนเวนเจอร์แคปปิตอล (Venture Capital Fund) ใน 5 ปีนี้บริษัทฯ จะลงทุนในกองทุนจำนวน 3 กองทุนที่อยู่ในภูมิภาค ได้แก่ ญี่ปุ่น, จีน, เกาหลี และอิสราเอล เนื่องจากมองว่าเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีที่ดี เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค โดยเตรียมจะเข้าลงทุนในกองทุนอิสราเอลเป็นกองแรก คาดว่าจะเซ็นสัญญาในไตรมาส 1/64 ซึ่งกองทุนอิสราเอลมีอายุ 10 ปี

นายณรงค์พนธ์ กล่าวว่า การลงทุนดังกล่าวบริษัทฯ คาดหวังใน 3 ประเด็น ได้แก่ การเข้าถึง deal flow มากขึ้นเป็น 1,500-2,000 ราย จากเดิมที่มีดีลต่อปีราว 200-300 ราย, มีโอกาสร่วมลงทุนในการพัฒนาธุรกิจใหม่ในประเทศไทยและต่างประเทศ, คาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุน เมื่อกองทุนปิดลง

ส่วนการลงทุนผ่าน Venture Builder ภายใต้โครงการ InVent Builder วางเป้าหมาย 3 ปีจากนี้ลงทุนใน 3 โปรเจ็คต์ โดยมีความสนใจในธุรกิจ Healthcare เนื่องจากสตาร์อัพประสบความสำเร็จน้อย ทำให้บริษัทมองโอกาสเข้าไปร่วมสร้างการเติบโตให้กับสตาร์ทอัพเหล่านี้ ซึ่งที่ผ่านมาได้เปิดรับสมัครสตาร์ทอัพที่สนใจเข้าร่วมโครงการผ่าน www.inventvc.com/inventbuilder และจะปิดรับสมัครในช่วงปลายเดือนก.พ.นี้ ถึงต้นเดือนมี.ค.64 โดยปัจจุบันมีผู้สมัครเข้ามาแล้วจำนวน 30 ราย บริษัทฯ จะคัดให้เหลือ 4 ราย

นายณรงค์พนธ์ กล่าวว่า บริษัทยังคงงบลงทุนในโครงการอินเว้นท์ (InVent) ไว้ระดับเดิมที่ปีละ 200-250 ล้านบาท ซึ่งจะไม่นับรวมกับการลงทุนใน Venture Capital Fund ซึ่งวางงบลงทุนราว 5-10 ล้านเหรียญฯ และ Venture Builder ที่จะขึ้นอยู่กับขนาดของธุรกิจ โดยเงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท

ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทก็ยังมีดีลในโครงการ VC อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในเดือน ม.ค.64 บริษัทฯ ได้ลงทุนในบริษัท โคนิเคิล จำกัด (Conicle) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการเรียนรู้สำหรับบุคลากรในองค์กร ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีการศึกษา (EdTech) รวมถึงพิจารณาขายหุ้นที่เข้าไปลงทุนในสตาร์ทอัพไว้ (Exit) โดยคาดหวังว่าจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนไม่ต่ำกว่า 29%

ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา INTUCH ลงทุนในสตาร์ทอัพทั้งหมด 26 ราย มีมูลค่าพอร์ตการลงทุนกว่า 1,300 ล้านบาท เติบโตขึ้น 26% จากปี 62 ซึ่งมาจากการลงทุนใหม่ และ Exit) ในบริษัท วงใน มีเดีย จำกัด และ บริษัท โซเชี่ยล เนชั่น ปัจจุบัน INTUCH ทำการ Exit แล้วทั้งหมด 7 สตาร์ทอัพ ได้รับผลตอบแทนทั้งหมดคิดเป็น IRR เฉลี่ย 29%

ส่วนการลงทุนในคริปโทเคอเรนซีนั้น บริษัทฯ ยืนยันว่าไม่มีความคิดที่จะลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าว แต่เป็นเพียงการมองโอกาสในการลงทุนในเทคโนโลยี blockchain เท่านั้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ