หุ้น EPG ราคาพุ่งขึ้น 6.98% มาอยู่ที่ 9.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 237.34 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.14 น. โดยเปิดตลาดที่ 9.00 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 9.20 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 8.90 บาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป (EPG) เป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของกลุ่มยานยนต์ และยังมองเป็นหุ้นที่ฟื้นตัวเด่นและพื้นฐานธุรกิจกำลังมีพัฒนาการมากขึ้น หลัง TJM พลิกมีกำไรสุทธิและอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นได้ดี ขณะที่ราคาหุ้นในปัจจุบันยังมี Upside 20.9% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2564 ที่ 10.40 บาท (อิง PER 22.3x ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี)
EPG รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/63 (สิ้นงวดเดือน ธ.ค.) จำนวน 431 ล้านบาท โตเด่น 102.6%YoY และ 39.9%QoQ ทำ New High รายไตรมาส ซึ่งแม้ไม่รวมรายการพิเศษจากเงินช่วยเหลือของรัฐบาลออสเตรเลียและรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อชดเชยไม่ให้บริษัทลดการจ้างงานรวม 50 ล้านบาทที่บันทึกในไตรมาส 2/63 และไตรมาส 3/63 สุทธิกับค่าใช้จ่ายพิเศษอื่น ๆ ได้แก่ ค่าเสื่อมของสินทรัพย์และผลขาดทุน FX พบว่าบริษัทยังมีกำไรปกติจำนวน 412 ล้านบาท โต 95.9%YoY และ 82.9%QoQ ดีกว่าที่คาด
โดยมีแรงหนุนหลักจาก 1) รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 11.3%QoQ สะท้อนการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของ 3 ธุรกิจหลัก นำโดยธุรกิจอะไหล่ยานยนต์โต 19.3%QoQ สอดรับกับคำสั่งซื้อสินค้าในกลุ่ม Canopy และสินค้าของ TJM ที่เร่งตัวขึ้นตามความต้องการในยุโรปและออสเตรเลียที่เพิ่มขึ้นมาก อีกทั้งยอดขาย Bed Liner และ Side Step ยังปรับขึ้นตามยอดขายยานยนต์ในประเทศ รองลงมาเป็นธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่โต 7.2%QoQ โดยมียอดขาย Food Packaging ที่สูงขึ้น ขณะที่ยอดขายธุรกิจฉนวนยางปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 1.7%QoQ
2) อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นจาก 30.2% ในไตรมาส 2/63 เป็น 33.2% หลัง Utilization ขยับขึ้นตามยอดขาย บวกกับรับรู้ผลจากการปรับปรุงโครงสร้างและกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ 3) รายได้อื่น ๆ ขยับขึ้น 18.9%QoQ หลักๆ มาจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่โต 92.8%QoQ หลังโรงงานผลิตยานยนต์มีการเร่งการผลิตในช่วงปลายปี
กำไร 9 เดือน ปี 63 คิดเป็น 75.2% ของประมาณการกำไรปกติเดิม ดีกว่าที่คาดจากการฟื้นตัวของยอดขายอะไหล่ยานยนต์และอัตรากำไรขั้นที่โดดเด่น ส่งผลให้ปรับประมาณการกำไรปกติของปี 63 และ 64 ขึ้นเฉลี่ยปีละ 7.6% ทั้งนี้ภายใต้ประมาณการใหม่คาดกำไรในไตรมาส 4/63 จะเริ่มชะลอตัวลง QoQ เนื่องจากผ่านพ้นช่วง High Season ของธุรกิจอะไหล่ยานยนต์ไตรมาส 4/63 แต่ภาพ YoY ยังคงโตเด่น หนุนด้วยพัฒนาการเชิงบวกของทั้ง 3 ธุรกิจหลัก นำโดยธุรกิจอะไหล่ยานยนต์ที่คาดปรับขึ้นเด่นตามความต้องการซื้อยานยนต์ในประเทศที่เร่งตัวขึ้นบวกกับยอดส่งออกที่คาดเติบโตได้ดีจากความต้องการอะไหล่ตกแต่งและเสริมสมรรถรถ SUV และ 4x4 ในกลุ่มลูกค้ายุโรปและออสเตรเลีย
นอกจากนี้ คาดธุรกิจฉนวนยางจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นสอดรับไปกับคำสั่งซื้อจากลูกค้าในญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์คาดเห็นการปรับตัวขึ้นของความต้องการใช้ Food Packaging ในธุรกิจ Delivery จากผลของการกลับมา Work from home ในเดือน ม.ค. หนุนให้คาดทั้งปี 63 EPG จะมีกำไรปกติ 1,135 ล้านบาท โต 13.6%YoY