นายอนุวัตร สงวนทรัพยากร หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านการเงิน บมจ.ไทยคม (THCOM) กล่าวว่า บริษัทพยายามจะรักษาระดับรายได้ในปีนี้ให้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้ 3,557 ล้านบาท และมุ่งเน้นที่จะพลิกกลับมามีกำไร เนื่องจากในปีนี้เป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีจากระบบสัมปทานที่ดาวเทียมไทยคม 4 และไทยคม 6 จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในเดือนก.ย.64 ซึ่งก็ต้องติดตามว่าใครจะเป็นผู้บริหาร โดยบริษัมพร้อมเป็นพันธมิตร
"พยายามจะ maintain รายได้ อย่างที่เห็นเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายจากระบบสัมปทาน และเป็นช่วงกำลังเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นสตาร์ลิ้งค์เข้ามาหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเข้ามา บริษัทระมัดระวัง เราก็พยายาม Turnaround เราอยากเน้นตัว Profit ก่อน Profit มาหรือ maintain ได้แล้ว หากเทคโนโลยีเข้ามานิ่งแล้วเราคาดว่าจะได้เห็นการเติบโตกัน" นายอนุวัตร กล่าว
ทั้งนี้ หลังการสิ้นสุดสัญญาสัมปทานของดาวเทียมไทยคม 4 และไทยคม 6 บริษัทจะโอนย้ายไปให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยขั้นตอนต่อไปกระทรวงดิจิทัลฯ ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งก็ต้องรอความชัดเจนของ กสทช. อย่างไรก็ตามบริษัทพร้อมจะเป็นพันธมิตรในการบริหารดาวเทียมกับทุกราย
ด้านนายปฐมภพ สุวรรณศิริ รักษาการรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการค้า THCOM กล่าวว่า บริษัทยังคงวิสัยทัศน์ Space-Air-Ground-Maritime Smart Solution ที่เป็นผู้ให้บริการเชื่อมต่อเทคโนโลยีมาเป็น Solution ให้ลูกค้า ไม่ใช่แค่เช่าช่องสัญญาณดาวเทียมอย่างเดียว โดยบริษัทมีประสบการณ์ในธุรกิจดาวเทียมมา 30 ปี ขณะที่เปิดตัวธุรกิจ Maritime และ ธุรกิจโดรนเล้ว
ทั้งนี้ บริษัทยังไม่ทิ้งธุรกิจหลักที่บริษัทมีประสบการณ์นานและมีชื่อเสียง โดยในช่วงปีนี้เป็นช่วงสิ้นสุดสัญญาสัมปทานของดาวเทียมไทยคม 4 และไทยคม 6 ภารกิจของบริษัทปีนี้ถ่ายโอนความรับผิดชอบให้ต่อเนื่องและครบถ้วนให้กับกระทรวงดิจิทัลฯ และบริษัทก็ต้องรอการตัดสินใจของรัฐบาลว่าใครจะดำเนินการบริหารดาวเทียบมไทยคม 4 และไทยคม 6 ซึ่งเราคาดว่าจะเป็นบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด(มหาชน) หรือ NT ที่ควบรวมระหว่างบมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท โทรคมนาคม
อย่างไรก็ตาม THCOM ในฐานะผู้บริหารดาวเทียมไทยคม 4 และไทยคม 6 มาก่อน และเป็นผู้มีประสบการณ์ จะมีโอกาสร่วมธุรกิจกับ NT ในการบริหารจัดการดาวเทียมไทยคม 4 และไทยคม 6 หลังสัมปทาน แต่ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยกับราชการ ต้องรอให้ชัดเจนก่อนว่าใครเป็นผู้ดูแลเสียก่อน เพื่อแสวงหาความร่วมมือด้วยกัน
ส่วนการหาพันธมิตรในการสร้างดาวเทียมดวงใหม่ทดแทนดาวเทียมไทยคม 4 ซึ่งระบบการดูแลจัดการดาวเทียมอยู่ที่ กสทช. ซึ่ง กสทช.อยู่ระหว่างการจัดประมูลวงโคจรของประเทศไทย ดาวเทียมไทยคม 4 อยู่บนวงโคจรที่ 119.5 องศาซึ่งบริษัทก็รอ กสทช.ว่าพร้อมเริ่มประมูลเมื่อไหร่ ซึ่ง THCOM พร้อมเข้าร่วมประมูลด้วยซึ่งไม่ใช่เข้ามาคนเดียวแต่จะจับมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพราะว่าช่วงนี้มีการผลัดเปลี่ยนเทคโนโลยีค่องข้างมาก บริษัทจำเป็นต้องลดความเสี่ยง ลดปริมาณการลงทุน ด้วยการจับมือกับ Strategic Partner ซึ่งเป็นแนวทางเหมาะสม
ส่วนประเด็นการเมืองเมียนมา โดยบริษัทให้บริการดาวเทียมบรอดแบรนด์และดาวเทียมบรอดคาสท์ในเมียนมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นดาวเทียมบรอดคาสท์ให้กับช่องทีวี ตอนนี้ช่องทีวีถูกควบคุมจากรัฐบาลบ้างโดยเฉพาะช่องข่าว แต่ลูกค้ายังดำเนินธุรกิจได้โดยไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด และยังไม่ได้ติดต่อบริษัทขอความช่วยเหลือ ขณะที่บริษัทเห็นว่าเป็นเรื่องชั่วคราว ฉะนั้นธุรกิจของบริษัทในเมียนมายังคงดีอยู่ ไม่ได้รับผลกระทบจากการเมือง