เป็นกระแส Talk Of The Town สำหรับความร้อนแรงของหุ้น บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) บริษัทในเครือ บมจ.ปตท. (PTT) แม้เพิ่งเข้าซื้อขายวันแรกเมื่อวันที่ 11 ก.พ.64 ด้วยราคาจองซื้อ IPO ที่ 18 บาท แต่ภายหลังจากเริ่มเปิดซื้อขายของสัปดาห์นี้ (15 ก.พ.64) พบว่าถูกไล่ราคาทันทีด้วยแรงซื้อขายหนาแน่น ส่งผลให้ราคาขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 36.50 บาท ส่งผลให้ผู้ลงทุนที่จองซื้อหุ้น OR ในราคา IPO ที่ 18 บาทได้รับผลตอบแทนมากกว่า 100% ทันทีในระยะเวลาเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพียง 2 วันทำการเท่านั้น
การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น OR ในช่วงเวลาสั้นๆ เรียกว่าหักปากกาเซียน เพราะเมื่อย้อนไปพิจารณาแง่ปัจจัยเชิงพื้นฐานหุ้น OR นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินกรอบราคาพื้นฐานอยู่ที่ 21-25 บาท/หุ้น คิดเป็นราคาพื้นฐานเฉลี่ยอยู่แถวๆ 22.70 บาท/หุ้นเท่านั้น หนึ่งในปัจจัยบวกระยะสั้น คือ การเพิ่มน้ำหนักของผู้ลงทุนสถาบันหรือกองทุนจากกรณีหุ้น OR เข้าคำนวณใน Index Fund หลักๆ เช่น SET50-SET100 ,FTSE100 และ MSCI Index ทำให้คาดหวังเม็ดเงินก้อนใหม่จากนักลงทุนสถาบันไหลเข้ามาเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกันปัจจัยบวกการเข้าคำนวณใน Index Fund จะเป็นตัวแปรประคับประคองราคาหุ้น OR ทรงตัวยืนอยู่ในระดับสูงเกินราคาพื้นฐานที่นักวิเคราะห์ประมาณการได้ยาวนานแค่ไหน ??
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุนกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า เหตุผลหลักผลักดันราคาหุ้น OR ให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงภายหลังจากเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯคือการที่หุ้น OR เข้าคำนวณใน Index Fund หลัก สนับสนุนบรรยากาศเก็งกำไรในหุ้น OR ผสมผสานกับการปรับพอร์ตเพิ่มน้ำหนักของผู้ลงทุนสถาบัน
แม้ว่าวันแรกจะตอบรับกับปัจจัยบวกเข้าคำนวณในดัชนี SET50-SET100 คาดจะเริ่มเข้าคำนวณด้วยเกณฑ์เร่งด่วน (Fast track) ในวันพุธที่ 17 ก.พ.นี้ ประเมินว่าจะมีเม็ดเงินใหม่จากกองทุนประเภท Passive fund ไหลเข้ามาในหุ้น OR ประมาณ 1,500 ล้านบาท แต่เมื่อวันเสาร์ที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมามีการรายงานข้อมูลเพิ่มเติมจาก MSCI Index ประกาศนำหุ้น OR เข้าคำนวณดัชนีด้วยเกณฑ์ Fast track เช่นกันทำให้นักลงทุนสถาบันบางส่วนต้องปรับ Position เข้ามาลงทุนในหุ้น OR อีกครั้ง
ทั้งนี้ หุ้น OR เตรียมเข้าคำนวณใน MSCI Index ในวันที่ 25 ก.พ.นี้ แม้ว่าในรายงานจะระบุว่าเป็นวันที่ 26 ก.พ. แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดทำการจึงถูกเลื่อนมาเป็นวันที่ 25 ก.พ. เบื้องต้นคาดว่าจะมีเม็ดเงินใหม่จากการเข้าคำนวณใน MSCI Index เป็นมูลค่าที่ค่อนข้างสูงกว่า 129.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 4 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากสะท้อนราคาหุ้น OR วันนี้นับว่าตอบรับกับความคาดหวังเข้าคำนวณใน MSCI Index ไปมากพอสมควรแล้ว ดังนั้นผู้ลงทุนที่เข้าไปเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้น OR ไม่แนะนำให้ไล่ราคาและต้องใช้ความระมัดระวังสูงด้วย
สำหรับปัจจัยบวกระยะถัดไปของหุ้น OR นั่นคือการเก็งเข้าคำนวณใน FSTE Index แต่จากมุมมองส่วนตัวมีความเป็นไปได้เช่นกันว่าหุ้น OR อาจจะพลาดเข้าคำนวณใน FSTE Index เนื่องจากสัดส่วนวงเงินที่เข้าคำนวณใน MSCI Index รอบนี้เป็นวงเงินที่ค่อนข้างสูง ทำให้สัดส่วนการถือครองหุ้นต่างชาติผ่าน FSTE Index จะเหลือสัดส่วนที่ไม่มากแล้ว ทำให้คงต้องมาติดตามต่อว่า FSTE Index รอบนี้จะนำหุ้น OR เข้าคำนวณหรือไม่
"หุ้น OR เข้าเกณฑ์ Fast track ใน Index Fund หลักๆ ทำให้เกมนี้เป็นเกมเร็ว สังเกตุได้ว่าวันแรกนักลงทุนสถาบันยังมีของไม่เพียงพอทำให้ต้องมีการเก็บหุ้นเพิ่ม ขณะที่หุ้น OR มีปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนบนกระดานซื้อขาย (Free float) ไม่เยอะเพียง 24.5% ทำให้เมื่อมีแรงซื้อและขายจำนวนมากๆ จะทำให้การเคลื่อนไหวของราคาเหวี่ยงผันผวน ซึ่งผู้ลงทุนที่ลงทุนในหุ้นที่อิงกับ Index Fund ต้องเข้าใจหลักตรงนี้ โดยเฉพาะหุ้นที่เข้าคำนวณใน MSCI Index ปกติก่อนเข้าคำนวณราคาหุ้นตัวนั้นจะมีแรงเก็งกำไรหนาแน่นหนุนราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่นเกือบทุกครั้ง
ส่วนความคาดหวังเม็ดเงินก้อนใหม่ต่อไป คือการเข้าคำนวณในดัชนี FSTE Index ซึ่งล่าสุดยังไม่มีการประกาศว่าจะนำ OR เข้าไปคำนวณในดัชนีฯหรือไม่ แต่หาก FSTE Index นำหุ้น OR เข้าไปคำนวณ พร้อมกับมีเม็ดเงินที่ใหญ่มากพอเกินกว่าความคาดหมายเหมือนกับ MSCI Index ส่วนตัวก็เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยบวกผลักราคาหุ้น OR กลับมาปรับตัวขึ้นไปได้อีกระลอกเช่นกัน"นายกรภัทร กล่าว
สามารถติดตามบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆได้ที่ https://youtube.com/c/InfoQuestNews
https://youtu.be/e4IO9UaXyCc