(เพิ่มเติม) IRPC ยืนยันเดินหน้าแผนสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแต่อาจยื่น IPP ไม่ทันรอบนี้

          บมจ.ไออาร์พีซี(IRPC) เดินหน้าประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในจ.ระยอง เพราะเห็นแนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ประกอบกับตันทุนการผลิตไฟฟ้าต่ำกว่าโรงไฟฟ้าก๊าซ โดยคาดว่าจะเป็นการสร้างรายได้ให้บริษัทเพิ่มขึ้นปีละ 3 พันล้านบาท เตรียมแผนยื่นสร้าง 2 โรง ขนาดโรงละ 800 เมกะวัตต์  
          แต่ยอมรับว่าอาจยื่นประมูลสร้างโรงไฟฟ้า IPP ไม่ทันในรอบที่จะปิดรับซองประมูล 19 ต.ค.นี้ เพราะยังอยู่ระหว่างกระบวนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)และการออกแบบโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน 
          "รอบนี้เราอาจจะไม่ทัน แต่ยังไงเราก็จะทำ เราคงยื่นรอบต่อไป เราจะไม่ทำก็ต่อเมื่อ การทำ EIA ไม่ผ่าน ประชาชนในพื้นที่ไม่รับ แต่ที่มาคัดค้านนี่ไม่ใช่ ต้องเป็นคนระยองเท่านั้น ต้องมีการทำประชาพิจารณ์มีการชี้แจงเป็นเรื่องเป็นราว แต่นี่ก่อม๊อบมาบีบมันไม่ได้ ไม่มีที่ไหนเขาทำกัน"นายปิติ ยิ้มประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ IRPC กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
          ทั้งนี้ เงินลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินคาดว่าจะสูงถึง 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีต้นทุนสูงกว่าโรงไฟฟ้าก๊าซ 30-40% เพราะโรงไฟฟ้าถ่านหินใช้เทคโนโลยีก่อสร้างค่อนข้างสูงตามที่ใช้กันในสหรัฐ  สวีเดน และ เกาหลี 
          "คือไม่ใช่เราไม่ใส่ใจม๊อบ แต่ต้องมีการเจรจา ให้เรามีโอกาสชี้แจงกับประชนชนในพื้นที่ และถ้าไม่ผ่านก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ใช่ธุรกิจหลักของเรา แต่เราตั้งใจทำ เพราะรัฐบาลประกาศแผน และผมก็อยู่วงการพลังงานมานาน ก็เห็นว่าถ้าเป็นโรงไฟฟ้าใช้ก๊าซก็แพงไป แต่เห็นว่าถ่านหินเป็นทางเลือก เทคโนโลยีก็ทันสมัยแล้ว จริงๆก็ยื่นเพื่อให้ค่าไฟฟ้าบ้านเราจะได้ถูกลง เท่านั้นเอง"นายปิติ กล่าว  
          บริษัทต้องการให้เกิดความรอบคอบก่อนที่จะยื่นประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งปกติการออกแบบโรงไฟฟ้าถ่านหินจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี แต่บริษัทใช้เวลา 8 เดือนก็ยังไม่แน่ใจคุณภาพ จึงต้องการให้มั่นใจว่าทำได้จึงจะยื่นประมูล เพราะถ้าบริษัททำไม่ได้ จะเสียหายมาก 
          นายปิติ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องพิจารณาอีกครั้งว่าเงินลงทุนเมื่อเทียบกับกับโรงไฟฟ้าก๊าซจะมีต้นทุนต่ำกว่าหรือไม่ เพราะถ้าเทียบแล้วไม่ถูกกว่า บริษัทก็จะไม่ยื่นประมูล แต่ถ้าทำได้บริษัทก็จะยืนประมูล 2 โรง รวม 1.6 เมกะวัตต์ เพราะเห็นความต้องการใช้เพิ่มขึ้นปีละ 2 พันเมกะวัตต์ คาดว่าเงินทุนมาจาก Project Finance
          "ถ้าเราทำได้ก็จะเป็นรายได้ที่สม่ำเสมอให้กับบริษัทปีละ ประมาณ  3 พันล้านบาท ถ้าได้สร้างโรงไฟฟ้า 2 โรง"นายปิติ กล่าว 
          ส่วนภาพรวมธุรกิจน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลังส่วนใหญ่จะดีสู้ครึ่งปีแรกไม่ได้ เพราะฤดูหนาวในต่างประเทศคนไม่ค่อยเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งแนวโน้มเป็นอย่างนี้ทุกปี ดังนั้นระดับค่าการกลั่นอาจจะต่ำกว่าครึ่งปีแรก  แต่หากมีพายุเข้ามา ทิศทางของราคาน้ำมันก็จะเปลี่ยนไป  
          พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์ ที่ปรึกษาสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ IRPC กล่าวว่า เจตนาของกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ไม่ได้ยื่นข้อเรียกร้องที่จะเจรจาต่อรองใด ๆ เพียงแต่ต้องการให้นายปิติ ยิ้มประเสริฐ ออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ และต้องการให้บริษัทเซ็นสัญญาว่าจะไม่ให้ยื่นประมูลสร้างโรงไฟฟ้า IPP เชื่อว่าไม่มีเหตุผลที่จะคัดค้านโรงไฟฟ้า แต่ต้องการให้นายปิติลาออกจากตำแหน่งเท่านั้น
          ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันนี้ เวลา 11.00 น. IRPC จะแถลงข่าวและชี้แจงกรณีมีชาวบ้านรวมตัวประท้วงต่อต้านการสร้างโรงไฟฟ้า IPP ที่โรงงานไออาร์พีซี จังหวัดระยอง