ทริสฯ จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ 3.5 พันลบ.ของ JMART ที่ BBB- แนวโน้ม Stable

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 16, 2021 14:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บมจ.เจมาร์ท (JMART) ที่ระดับ "BBB" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 2.7 พันล้านบาทพร้อมหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติมในวงเงินไม่เกิน 800 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ "BBB-" ด้วย โดยอันดับเครดิตของหุ้นกู้ชุดใหม่นี้ใช้แทนอันดับเครดิตหุ้นกู้เดิมที่ได้รับการจัดอันดับเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2564 เนื่องจากบริษัทมีความประสงค์จะเพิ่มวงเงินรวมของหุ้นกู้เป็นไม่เกิน 3.5 พันล้านบาท จากเดิม 2.7 พันล้านบาท

ทั้งนี้ อันดับเครดิตหุ้นกู้ที่ต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรนั้นสะท้อนในเชิงโครงสร้างที่ด้อยกว่าหรือการมีสิทธิเรียกร้องในการได้รับการชำระคืนหนี้ที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับสิทธิเรียกร้องของบริษัทย่อยต่าง ๆ ของบริษัท ในการนี้บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปใช้ชำระคืนหนี้เงินกู้เดิมและนำไปลงทุนในบริษัทย่อยต่าง ๆ

อันดับเครดิตองค์กรยังคงสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัทซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากธุรกิจซื้อและบริหารหนี้ด้อยคุณภาพและผลการดำเนินงานที่เข้มแข็งของบริษัทลูกหลักรายสำคัญ คือ บมจ.เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) รวมถึงสถานะที่ค่อนข้างแข็งแกร่งในธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัท

ในการประเมินอันดับเครดิตนั้น ทริสเรทติ้งยังพิจารณารวมไปถึงการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตลอดจนภาระหนี้ที่สูงของบริษัท และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลและธุรกิจให้เช่าพื้นที่ของบริษัทอีกด้วย

บริษัทมีผลการดำเนินงานในรอบระยะเวลา 9 เดือนแรกของปี 2563 ที่ยังคงแข็งแกร่งและเป็นไปตามที่ทริสเรทติ้งคาดไว้ถึงแม้ว่าจะมีธุรกิจบางส่วนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) อยู่บ้าง โดยในช่วงดังกล่าวบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 868 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งนั้นได้รับอานิสงส์มาจากผลการดำเนินงานของ บริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์คฯ ที่ยังคงเข้มแข็งเป็นหลัก โดยบริษัทลูกดังกล่าวมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 713 ล้านบาท นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นของบริษัทร่วม คือ บมจ. ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ก็ยังช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ ส่วนแบ่งกำไรที่บริษัทได้รับจากบริษัทซิงเกอร์ฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 93 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 จาก 33 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562

แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" มีพื้นฐานมาจากการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาระดับผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจจัดเก็บหนี้และการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพมาบริหารเอาไว้ได้ในขณะที่สถานะทางการตลาดในธุรกิจจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่จะยังคงแข็งแกร่งต่อไป ทริสเรทติ้งยังคาดด้วยว่าผลการดำเนินงานของบริษัทลูกรายอื่น ๆ เช่น บริษัท เจ ฟินเทค จำกัด และ บมจ. เจเอเอส แอสเซ็ท (J) จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตยังคงมีจำกัดในระยะเวลาอันใกล้เมื่อพิจารณาจากสถานะทางธุรกิจและการเงินของบริษัทในปัจจุบัน ในขณะที่ความกดดันทางด้านลบต่ออันดับเครดิตจะเกิดจากผลการดำเนินงานที่ถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญทั้งในส่วนของบริษัทเองหรือของบริษัทลูก หรือจากการลงทุนในเชิงรุกซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้จนระดับอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายอยู่สูงเกินกว่า 5 เท่าอย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ