นายแพทย์เสถียร ภู่ประเสริฐ รองประธานกรรมการบริษัทและกรรมการผู้อำนวยการ บมจ.โรงพยาบาลพระรามเก้า (PR9) เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 64 มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย หลังจากรัฐบาลเริ่มนำเข้าวัคซีน โดยเน้นการฟื้นตัวจากผู้ป่วยในประเทศ รวมถึงการขยายศูนย์เฉพาะทางมากขึ้น จากการเปิดให้บริการอาคารใหม่ PRARAM 9 Medical Center
ในปีนี้บริษัทมีกลยุทธ์ในการเพิ่มรายได้จากการรักษาโรคซับซ้อน อาทิ ผู้ป่วยโรคไต โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และเตรียมเปิดศูนย์เฉพาะทางใหม่ ได้แก่ ศูนย์เลสิค ศูนย์กระดูกสันหลัง ศูนย์มะเร็งและข้อสำหรับผู้สูงอายุ ศูนย์ Sleep lab สำหรับผู้มีปัญหาการนอน และยังคงมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าประกันที่มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการขยายช่องทางในการรักษาด้วย PR9 Telemedicine ในรูปแบบของ Official Line Account เป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความนิยมในต่างประเทศ พร้อมทั้งมีบริการส่งยาให้กับผู้ป่วยถึงบ้าน และบริการ Drive in Service ซึ่งปัจจุบันก็มีบริษัทประกันภัยเข้ามาเป็นพันธมิตรเครือข่ายมากขึ้น
"ปีที่แล้วเราปรับแผนยุทธศาสตร์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดทำให้ผลประกอบของเราเริ่มฟื้นตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา และในปีนี้แผนกลยุทธ์ที่เราเตรียมไว้จะทำให้รายได้มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง" นายแพทย์เสถียร กล่าว
นายแพทย์เสถียร กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 4/63 ว่า บริษัทมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาล 735 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปี 62 มาจากผู้ป่วยในประเทศที่เริ่มกลับมาใช้บริการปกติ โดยเฉพาะการผ่าตัดในกลุ่มโรคซับซ้อนที่โรงพยาบาลมีความเชี่ยวชาญ เช่น โรคไต, โรคหัวใจ, โรคมะเร็ง และการผ่าตัดใหญ่ รวมถึงรายได้เสริมจากการบริการตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19 และการบริการของโรงพยาบาลที่รองรับการเป็นสถานกักกัน (Alternative Hospital Quarantine ? AHQ) อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปี 2563 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้นจำนวน 2,633 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทมีการจัดการต้นทุน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ดีขึ้น ได้แก่ ค่าใช้จ่ายทางด้านบุคลากรที่ทำได้ดี จากการบริหารชั่งโมงทำงานและกระจายทรัพยากรบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 4 เติบโต 9.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยประสิทธิภาพในการทำกำไรทรงตัว net margin ระดับปกติที่ราว 10%