นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งในกรอบแคบ คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย โดยตลาดบ้านเราน่าจะยังได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้นไป โดยราคาน้ำมัน Brent ได้ขึ้นไปแถว 65 เหรียญ/บาร์เรลแล้ว จากที่อากาศเย็นในรัฐเท็กซัสทำให้ต้องหยุดการผลิตน้ำมันไป อย่างไรก็ดีให้ติดตามการรายงานสต็อกน้ำมันของสหรัฐฯในคืนนี้ ซึ่งก็คาดว่าจะลดลง
นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) อายุ 10 ปีของสหรัฐก็ปรับตัวขึ้น ทำให้ Fund Flow ชะงักจากเงินไหลกลับไป ส่งผลให้วานนี้ก็มีการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มแบงก์ในตลาดบ้านเราจากแนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น ทำให้กลุ่มแบงก์จะได้ประโยชน์ ดังนั้นวันนี้ให้จับตาการเคลื่อนไหวของหุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มพลังงาน เป็นหลัก
พร้อมให้แนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (17 ก.พ.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,613.02 จุด เพิ่มขึ้น 90.27 จุด (+0.29%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,931.33 จุด ลดลง 1.26 จุด (-0.03%) ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,965.50 จุด ลดลง 82.00 จุด (-0.58%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 66 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 19.79 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 98.42 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ก.พ.) 1,514.91 จุด ลดลง 8.20 จุด (-0.54%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,696.09 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ก.พ.64
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (17 ก.พ.) ปิดที่ 61.14 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1.8%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ก.พ.) อยู่ที่ 1.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 29.99 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค หลังดอลล์แข็งขานรับตัวเลขศก.สหรัฐออกมาดี
- นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ คาดการณ์ปริมาณการผลิตรถยนต์ในปี 2564 จำนวน 1,500,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 คิดเป็น 6% ประกอบด้วย การส่งออก 750,000 คัน เพิ่มขึ้น 2% จากสภาพเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่กำลังฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการจำหน่ายในประเทศ 750,000 คัน ลดลง 3% ซึ่งเป็นผลจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ และหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูง ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น
- กนง.มองเศรษฐกิจไทยยังเปราะบาง แนะรัฐเตรียมชุดมาตรการการเงินและการคลังฉุกเฉิน พร้อมใส่แรงกระตุ้นเพิ่ม รับมือความผันผวนของเศรษฐกิจ เช่น ปลายปีเปิดรับนักท่องเที่ยวยังไม่ได้ ขณะที่ห่วงสถานะการเงินคนไทย ธุรกิจไทยย่ำแย่ลง หวั่นผิดนัดชำระหนี้พุ่ง สั่งธปท.ต่ออายุมาตรการการเงิน รวมทั้งออกเพิ่มเติมและเร่งรัดกระจายสินเชื่อให้คนที่จำเป็น-แก้หนี้ให้ตรงจุดมากขึ้น
- นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้น จะเสนอรัฐบาลพิจารณาขยายโครงการเราเที่ยวด้วยกัน หรือเป็นการเปิดเฟส 3 ไปสิ้นสุดเดือน ก.ย.64 รวมทั้งพิจารณาเรื่องตั๋วเครื่องบินที่มีผู้ใช้สิทธิ์ในสองเฟสเหลืออยู่ถึง 1.3 ล้านสิทธิ์ จากการหารือกับหลายสายการบินเห็นว่า การปรับเป็นการสนับสนุนผู้โดยสารซื้อตั๋วประเภทบุฟเฟต์ในอัตราคนละ 2,000 บาท และซึ่งใกล้เคียงกับอัตราการสนับสนุนตั๋วเครื่องบินต่อใบในปัจจุบัน และเป็นประโยชน์ต่อสถานการณ์ปัจจุบันมากกว่า เพราะนักท่องเที่ยวสามารถซื้อไว้ล่วงหน้าเพื่อเดินทางทีหลัง สามารถใช้เดินทางได้หลายครั้ง ทำให้สามารถบริหารจัดการยืดหยุ่นตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสได้
- ตลท. เสนอ ก.ล.ต.ไฟเขียวเกณฑ์รับหุ้นอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษเข้าจดทะเบียนด้วยเกณฑ์มาร์เกตแคป หลังสรุปผลเฮียริ่งต้นปีนี้ เผย เริ่มมีธุรกิจอีโคโนมีสนใจเข้าระดมทุนแล้ว พร้อมเดินหน้าหนุนเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวกขึ้น คาดผุดกระดานเทรดหุ้นที่ 3 ในปีนี้
- กระทรวงพลังงานเร่งเคลียร์! แผนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนโดยเฉพาะโซลาร์ฯ ที่อยู่นอกแผนพีดีพี เล็งถก "สกพอ." สัปดาห์หน้าขอความชัดเจน ก่อนเดินหน้าจัดทำแผนพลังงานแห่งชาติที่คาดว่าจะเสร็จกลางปีนี้ ด้าน สนพ.จับมือ ส.อ.ท.บูรณาการเชื่อมข้อมูลพัฒนาฐานข้อมูลพลังงานเดินหน้าลดก๊าซเรือนกระจก
- กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ชำแหละผลประโยชน์ไทยใน RCEP เผย มีโอกาสส่งออกเพิ่ม หลังสมาชิกไม่เก็บภาษีสินค้า 90-92% ของรายการทั้งหมด เพิ่มโอกาสลงทุนในธุรกิจลุยตั้งกองทุน FTA ฉลุย
*หุ้นเด่นวันนี้
- PSL (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 9.5 บาท ได้ Sentiment บวกจากดัชนีค่าระวางเรือ BDI เพิ่มขึ้น 261 จุด เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 และเป็นการเพิ่มขึ้นแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ส่วนภาพรวมปีนี้คาดผลประกอบการพลิกมีกำไรจากทิศทางค่าระวางเรือที่สูงขึ้นจากดีมานด์กองเรือที่เพิ่มขึ้นขณะที่ซัพพลายเรือในตลาดมีอย่างจำกัด
- TOP (คันทรี่ กรุ๊ป) "ซื้อ"เป้า 65 บาท ผลประกอบการ Q1/64 มีแนวโน้มที่เป็นบวก ซึ่งจะดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากค่าการกลั่นที่ฟื้นตัวและกำไรจากสต็อกน้ำมันที่สูงขึ้น โดยคาดว่าบริษัทจะมีการบันทึกกำไรจากสต็อกน้ำมันเป็นจำนวนมากที่ 9.0 พันล้านบาท (+US$12.0/BBL) ในQ1/64 จากราคาน้ำมันดิบดูไบอ้างอิงปรับตัวขึ้นแตะ US62.0/BBL เทียบกับในช่วงต้นของ Q1/64 ที่ US$50/BBL นอกจากนี้ คาดว่า GIM ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น US$16/BBL ใน Q1/64 (จากที่ US$5.8/BBL ใน Q4/63 ด้วยแรงหนุนจากการฟื้นตัวของค่าการกลั่นที่ดีขึ้นของ Aromatics & LAB และกำไรจากสต็อกน้ำมันที่สูงขึ้น
- STA (ยูโอบี เคย์เฮียน)"เก็งกำไร"ไตรมาส 1/64 กำไรมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ซึ่งแม้คาดกำไรปี 65 อาจจะลดลงเหลือ 5.2 พันล้านบาท จาก 1.5 พันล้านบาทในปี 64 แต่หุ้นก็ยังคงซื้อขายด้วย PER ปี 65 ที่ไม่แพง ทำให้เห็นโอกาสในการเก็งกำไรในจังหวะที่ตลาดกังวลการพีคของกำไร
- GPSC (เคจีไอ)"เก็งกำไร"เป้า 79.5 บาท แนวโน้มกำไรจากการดำเนินงาน Q1/64 จะดีขึ้นแบบ QoQ จากต้นทุนที่ลดลง (SG&A และ ต้นทุนก๊าซ ลดลง) และประเมิน Catalyst บวกจากการลงทุนในธุรกิจแบตเตอรี่ทั้งในไทยและการเข้าถือหุ้นผู้ผลิตแบตเตอรี่ที่จีน หลังจากที่กระแสรถอีวีในไทยเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ (Great Wall Motor เข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย การเปลี่ยนรถเมล์+รถบัสเป็นรถอีวี)