หุ้น STGT ราคาพุ่งขึ้น 5.66% มาอยู่ที่ 42.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 4,909.69 ล้านบาท เมื่อเวลา 14.38 น. โดยเปิดตลาดที่ 40.25 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 43.25 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 40.00 บาท
บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ฯ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) (STGT) ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 58.00 บาท อิงปี 65 PER ที่ 8x (จากเดิมที่ 54 บาท อิงปี 64 PER ที่ 10 เท่า) โดยปรับไปใช้ targeted PER ปี 65 แทน เนื่องจากมองว่ากำไรปี 64 ที่ดีมากนั้นถือเป็นปีที่ไม่ปกติและไม่ represent ระดับความสามารถในการทำกำไรในระยะยาว และได้ปรับลด targeted PER ลงเป็น 8x จาก 10x สะท้อนอัตราการเติบโตของกำไรที่จะลดลง
จากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ (17 ก.พ.) ประเด็นบวกระยะสั้นคือ คาดกำไรปี 64 จะทำสถิติสูงสุด คาดที่ 35.6 หมื่นล้านบาท (+147% YoY) จากราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น +102% YoY เป็น 2.20 บาท/ชิ้น และปรับ Gross profit margin เพิ่มขึ้นเป็น 60% จากเดิมที่ 50% จากการปรับสัดส่วนการผลิตถุงมือยางไนไตรล์และการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ระยะยาวคาดว่ากำไรจะเริ่มปรับตัวลดลงตั้งแต่ปี 65 หลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่ปีนี้เริ่มเห็นผลบวกทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง ส่งผลกระทบต่อราคาถุงมือยางที่จะปรับตัวลดลง
ดังนั้น ปรับกำไรสุทธิปี 64 ขึ้น +129% เป็น 35,582 ล้านบาท (+147% YoY) และปรับกำไรสุทธิปี 65 ขึ้น +109% เป็น 20,590 ล้านบาท (-42% YoY) จากการปรับราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น และ GPM ที่ออกมาดีกว่าคาด
ด้านราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแต่ underperformed SET -3% ใน 3 เดือนที่ผ่านมา จากการกระจายการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลก ปัจจุบัน STGT เทรดอยู่ที่ 64 PER ที่ 3x แต่จะเพิ่มขึ้นเป็น 6x ปี 65 ซึ่งเป็นปีที่กำไรจะเริ่มกลับสู่ระดับปกติ Key catalyst คือกำไรปี 64 ที่เติบโตดี ขณะที่ความเสี่ยงคือ ราคาขายถุงมือยางที่อาจปรับลดลงเร็วกว่าคาด