ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) เนื่องจากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มบริษัทน้ำมัน หลังจากราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ดีดขึ้น 25.5 จุด ปิดที่ 6,306.2 จุด หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 6,232.0 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.7 พันล้านหุ้น
นายเยเรมีย์ แบ็ทสโตน-คาร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทชาร์ลส์ สแตนลีย์ กล่าวว่า "ตลาดหุ้นลอนดอนมีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูยอดค้าปลีกของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์"
นายแบ็ทสโตน-คาร์กล่าวว่า การที่ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นเหนือระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มบริษัทน้ำมันพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นบีพีดีดขึ้น 4 เพนซ์ ปิดที่ 567 เพนซ์ และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 21 เพนซ์ ปิดที่ 2,104 เพนซ์
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 7 ก.ย.ทรุดตัวลงอย่างหนักถึง 7.1 ล้านบาร์เรล แตะที่ระดับ 322.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 2.8 ล้านบาร์เรล
ส่วนหุ้นโวดาโฟนดีดขึ้น 3.1 เพนซ์ ปิดที่ 166.1 เพนซ์ หลังจากวาณิชธนกิจเจพีมอร์แกนกล่าวว่า หุ้นโวดาโฟนเป็นหนึ่งในหุ้น "tip pick" ของกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคมในอังกฤษ เนื่องจากธุรกิจของโวดาโฟนสามารถฝ่าฟันความผันผวนในตลาดได้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะแนวโน้มผลประกอบการที่สดใส
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--