บมจ.เอไอ เอ็นเนอร์จี้ (AIE) เปิดเผยว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีผลการดำเนินงานปี 63 กำไรสุทธิ 488.52 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิ 156.50 ล้านบาทในปี 62 โดยบริษัทมีกำไรหลังปรับปรุง EBITDA ในปี 63 เท่ากับ 608.81 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 62 ซึ่งมีผลขาดทุนหลังปรับปรุง EBITDA เท่ากับ 61.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 670.76 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1,082.66%
โดยในปี 63 บริษัทฯ (งบการเงินเฉพาะกิจการ) มีกำไรสุทธิ 496.76 ล้านบาท เทียบกับปี 62 ที่มีผลขาดทุนสุทธิเท่ากับ 148.86 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณขายไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการสนับสนุนและการปรับเพิ่มสัดส่วนผสมไบโอดีเซลในดีเซลจาก B7 เป็น B10 เป็นน้ำมัน ดีเซลพื้นฐานและบังคับใช้อย่างเป็นทางการทั่วประเทศตังแต่วันที่ 1 ม.ค.63 เป็นต้นมา ส่งผลให้ในปี 63 บริษัทมีปริมาณขายไบโอดีเซลเกิน 120 ล้านลิตร และขึ้นทะเบียนเป็นผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2543 แล้วตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.63
ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้จากการขายไบโอดีเซล น้ำมันบริโภคและผลพลอยได้สำหรับปี 63 เพิ่มขึ้นจากปี 62 เท่ากับ 3,407.47 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 174.20% จากการเพิ่มขึ้นทั้งเชิงปริมาณและราคาขาย บริษัทมีรายได้จากการขายกลีเซอรีนบริสุทธิ์ 140.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139.66 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13,175.47% จากปี 62 ที่มีรายได้ 1.06 ล้านบาท หลังจากเริ่มขายกลีเซอรีนบริสุทธิ์ในไตรมาส 4/62 และมีการขายอย่างต่อเนื่องในปี 63
ขณะที่บริษัทย่อย มีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิสำหรับปี 63 เท่ากับ 13.86 ล้านบาท ลดลงจากขาดทุน 28.39 ล้านบาทในปี 62 แต่ปัจจุบันบริษัทย่อยทั้งสองแห่งหยุดดำเนินกิจการแล้ว