ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: แรงขายหุ้นเหมือง,น้ำมัน ทุบฟุตซี่ปิดร่วง 69 จุด

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) เนื่องจากแรงขายที่ส่งเข้าฉุดหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มน้ำมัน หลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์อ่อนตัวลงเมื่อคืนนี้ 
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 69.0 จุด หรือ 1.07% ปิดที่ 6,396.9 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 6,367.0-6,465.9 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 3.3 พันล้านหุ้น
          หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มน้ำมันร่วงลงจากแรงเทขายทำกำไร หลังจากที่หุ้นทั้งสองกลุ่มทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงเมื่อหลายวันก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยหุ้นอันโตฟากัสต้าร่วงลง 54 เพนซ์ ปิดที่ 789 เพนซ์ หุ้นแองโกล อเมริกันดิ่งลง 94 เพนซ์ ปิดที่ 3,195 เพนซ์ และหุ้นรีโอตินโตทรุดลง 113 เพนซ์ ปิดที่ 4,091 เพนซ์
          การที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงต่ำกว่าระดับ 800 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ฉุดหุ้นในกลุ่มบริษัทน้ำมันปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นบีพีร่วงลง 2.9% ซึ่งเป็นการร่วงลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนส.ค.เป็นต้นมา หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์รายงานว่า นายโทนี  เฮย์เวิร์ด ซีอีโอของบีพีออกแถลงการณ์ว่า บีพีกำลังเผชิญรายรับที่ย่ำแย่ในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งทำให้บีพีจำเป็นต้องปรับลดเงินปันผล ขณะที่หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ร่วงลง 1.6%
          ส่วนหุ้นนอร์ทเธิร์น ร็อคดิ่งลง 5.2% หลังจากสถานีโทรทัศน์บีบีซีรายงานว่า ธนาคารนอร์ทเธิร์น ร็อคอาจจะชะลอการจ่ายเงินปันผลรอบครึ่งปีที่เคยประกาศไว้ในเดือนก.ค.เพราะถูกกดันจากสำนักงานบริการทางการเงินแลกระทรวงการคลังอังกฤษ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของนอร์ทเธิร์น ร็อคปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อข่าวดังกล่าว
          นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนก.ย.ร่วงลงแตะระดับ 99.8 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค.ร่วงลงอย่างหนักถึง 4.3% แตะระดับ 5.5 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2545 เป็นต้นมา