โบรกเกอร์เห็นพ้องผลประกอบการกลุ่มหลักทรัพย์งวดไตรมาส 3/50 ปรับสูงขึ้นตามวอลุ่มเทรดเฉลี่ยต่อวันที่ขยับสูงขึ้นเป็นมาในระดับ 1.9-2.0 หมื่นล้านบาท จาก 1.5 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 2/50 หลังจากเห็นการฟื้นตัวของการลงทุนในตลาดหุ้นอย่างชัดเจนเมื่อความกังวลในปัญหาซับไพร์มที่เป็นประเด็นถ่วงตลาดในช่วงกลางปีผ่อนคลายลง
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยกให้หุ้น BLS, BSEC เป็น Top Pick ของกลุ่มหลักทรัพย์
นายณาศิส ประเสริฐสกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ฟาร์อีสท์ ประเมินว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/50 ของกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์น่าจะมีการเติบโตขึ้นประมาณ 15-20% จากงวดไตรมาส 2/50 เป็นไปในทิศทางเดียวกับวอลุ่มเทรดเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้นในงวดไตรมาส 3/50 มาอยู่ที่ 19,000 ล้านบาท/วัน จาก 15,000 ล้านบาท/วันในงวดไตรมาส 2/50
นอกจากนี้ ยังมองว่าผลประกอบการของบริษัทหลักทรัพย์ในช่วงครึ่งหลังของปี 50 น่าจะมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยนอกจากวอลุ่มเทรดเฉลี่ยต่อวันจะมากขึ้นแล้ว ฐานเดิมยังค่อนข้างต่ำด้วย ทำให้เห็นถึงการเติบโตอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม แต่ละบริษัทหลักทรัพย์จะมีการเติบโตมากหรือน้อยแค่ไหน คงจะต้องขึ้นอยู่กับมาร์เก็ตแชร์ของแต่ละรายด้วย
พร้อมมองหุ้น BLS เป็น Top Pick ของกลุ่ม ส่วนหุ้น ASP และ PHATRA แนะ"ซื้อ"ในระดับรองลงมา เนื่องจากหุ้นทั้งสามตัวนี้เชื่อว่าจะรับประโยชน์สูงจากภาวะตลาดฯที่ดีขึ้น วอลุ่มเทรดเฉลี่ยต่อวันที่มากขึ้น โดยเฉพาะยิ่งเข้าใกล้วันเลือกตั้งในช่วงปลายปีนี้ก็อาจจะมีวอลุ่มเทรดเข้ามาเพิ่มขึ้นอีก
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย พลัส ประเมินในมุมมองเดียวกัน โดยคาดว่าวอลุ่มเทรดเฉลี่ยในไตรมาส 3/50 น่าจะอยู่ในระดับ 22,000 ล้านบาท/วัน เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/50 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/49 ที่มีวอลุ่ม 13,000 ล้านบาท/วัน
ดังนั้นจึงเชื่อว่ากำไรของบริษัทหลักทรัพย์โดยส่วนใหญ่น่าจะดีขึ้นในไตรมาส 3/50 อีกทั้งขณะนี้ก็ยังไม่เห็นว่ามีบริษัทหลักทรัพย์แห่งไหนที่มีมาร์เก็ตแชร์ปรับตัวลงมาก ๆ
ทั้งนี้ ให้หุ้น BSEC และ KGI เป็นหุ้น Top pick เนื่องจากยังมี upside ให้เล่นได้ โดยหุ้น BSEC ให้เป้าหมายไว้ที่ 4.98 บาท ส่วนหุ้น KGI มีเป้าหมายที่ 3.49 บาท สำหรับหุ้นหลักทรัพย์ตัวใหญ่อย่าง BLS และ PHATRA มองว่าราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมาจนเต็มมูลค่าแล้ว โดยหุ้น PHATRA ให้เป้าหมายไว้ที่ 37.99 บาท ส่วนหุ้น BLS ให้เป้าหมายไว้ที่ 24.87 บาท
ด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนิตี้ ประเมินหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ว่า แม้ว่าวอลุ่มในช่วงเดือน ส .ค.และก.ย.อาจลดลงไปบ้างแต่ในเดือน ก.ค.วอลุ่มเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 31,829 ล้านบาท ทำให้ทั้งไตรมาส 3/50 วอลุ่มเฉลี่ยต่อวันจะออกมาสูงกว่าไตรมาสก่อน ซึ่งส่งผลดีต่อรายได้ของบริษัทหลักทรัพย์ต่าง ๆ
หุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ที่น่าสนใจ ได้แก่ BLS ,BSEC , KEST ,PHATRA เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีรองรับเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดในระดับสูง และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/50 รวมทั้งโครงสร้างรายได้เอื้ออำนวย ซึ่งทำให้รายได้ในช่วงไตรมาส 3/50 สูงขึ้นมาก ซึ่งในขณะนี้เราอยู่ในช่วงประมาณกำไรในช่วงไตรมาส 3/50
ดังนั้น แม้ว่าช่วงนี้ตลาดหุ้นจะมีความผันผวนมาก และราคาหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์อาจมีการปรับตัวลง แต่ก็ถือเป็นโอกาสที่จะเข้า"ซื้อเก็งกำไร"ได้ในราคาถูก เนื่องจากจะได้ประโยชน์จากผลประกอบการที่ดีขึ้นในไตรมาส 3/50
พร้อมให้ราคาเป้าหมายของหุ้น BLS ที่ 29 บาท หุ้น BSEC มีราคาเป้าหมายที่ 5.4 บาท หุ้น KEST มีราคาเป้าหมายที่ 29.5 บาท และหุ้น PHATRA มีราคาเป้าหมายที่ 45.5 บาท
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--