นายไตรสรณ์ วรญาณโกศล กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอส พี วี ไอ (SPVI) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 64 จะสามารถเติบโตได้ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 3,634.97 ล้านบาท โดยบริษัทมองว่ากำลังซื้อของกลุ่มที่ใช้สินค้าพรีเมี่ยมยังคงมีอยู่ ในขณะเดียวกันมองว่าการใช้ชีวิตและการทำงานเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย ส่งผลให้กลุ่มลูกค้าองค์กรกลับมาจัดซื้อสินค้าตามปกติ จากปีก่อนที่ได้ชะลอการลงทุนไปด้วยการทำงานแบบ Work From Home
นอกจากนี้ บริษัทจะเน้นการพัฒนาตลาดออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เนื่องจากในปีก่อนบริษัทได้รับปัจจัยหนุนจากการขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ทดแทนหน้าร้านที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ และบางช่วงที่หน้าร้านมีผู้เข้าใช้บริการไม่มากนัก ซึ่งมองว่าตลาดออนไลน์จะเป็นช่องทางที่ช่วยลดความเสี่ยงของสถานการณ์ไม่ปกติที่เกิดขึ้นได้
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าการขยายสาขาในฐานะตัวแทนจำหน่าย (Reseller) ผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้า Apple รวมทั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าแบรนด์อื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายการเปิดสาขาไว้ 10 สาขาในปีนี้ จากปีก่อนที่มีสาขาทั้งหมด 59 สาขา เบื้องต้นมีความชัดเจนแล้ว 3 สาขา คือ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ศรีราชา และสถาบันจัดการปัญญาภิวัฒน์
"ในปีนี้มองการเติบโตที่ 10% มองว่าเป็นไปได้ โดยทิศทางของลูฏค้าองค์กรที่เริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ ขณะที่รูปแบบของการศึกษาเริ่มมีรูปแบบที่เปลี่ยนไปเป็นออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการสื่อการเรียนการสอนที่เพิ่มขึ้นด้วย ในขณะที่ลูกค้ากลุ่มพรีเมียมยังคงมีกำลังซื้ออยู่ ซึ่งเรายังคงมุ่งที่จะพัฒนาตลาดออนไลน์ที่ช่วยสนับสนุนช่วงที่มีการปิด และช่วยส่งเสริมช่วงระยะเวลาปกติด้วย"นายไตรสรณ์ กล่าว