(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:กระแสคาดเฟดลดดอกเบี้ย ดันดาวโจนส์ปิดบวก 34.79 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 28, 2007 06:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนหน้า หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงอย่างรุนแรง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับขึ้น 34.79 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 13,912.94 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 บวกขึ้น 5.96 จุด หรือ 0.39% ปิดที่ 1,531.38 จุด และ ดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 10.56 จุด หรือ 0.39% ปิดที่ 2,709.59 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.18 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 1.77 พันล้านหุ้น
นายเอริค เดวิดสัน นักวิเคราะห์จากเวลล์ ฟาร์โก ไพรเวท แบงค์กล่าวว่า "แม้รายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.ร่วงลง 8.3% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีจะเป็นข่าวร้ายต่ออุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและจะเป็นแรงผลักดันให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น"
"ก่อนหน้านี้นักลงทุนกังวลว่าภาวะซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์จะถ่วงเศรษฐกิจให้ถดถอยลงด้วย แต่เมื่อเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ความตึงเครียดในเรื่องดังกล่าวก็คลี่คลายลงทันทีและทำให้เกิดความคาดหวังว่า การลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นได้" นายเดวิดสันกล่าว
ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นเหนือ 82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือ 3.2% อันเนื่องจากความกังวลเรื่องพายุดีเปรสชั่นที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้อ่าวเม็กซิโก ขณะที่การร่วงลงของดอลลาร์เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันและผู้ให้บริการพลังงาน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล คอร์ป และหุ้นชลัมเบอร์เกอร์ ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก เป็นหนึ่งในปัจจัยที่หนุนดัชนี S&P 500 ดีดตัวขึ้น ทั้งนี้ หุ้นเอ็กซอนพุ่งขึ้น 0.7% ปิดที่ 92.97 ดอลลาร์ และหุ้นชลัมเบอร์เกอร์พุ่งขึ้น 2 % สู่ 105.03 ดอลลาร์
หุ้นเคบี โฮมดีดขึ้น 2.6% หลังจากเจ้าหน้าที่ของเคบี โฮม เปิดเผยว่าตัวเลขขาดทุนของบริษัทในไตรมาส 3 อยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่มีการคำนวณขั้นสุดท้ายประจำไตรมาส 2 ปี 2550 ลดลงแตะระดับ 3.8% ต่อปี จากเดิมที่เคยรายงานว่าอยู่ที่ 4% แต่ระดับ 3.8% ยังเป็นระดับที่แข็งแกร่ง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ